วันนี้ ๒๒ พ.ย.๕๙ เวลา ๐๘๐๐ พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการจัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” เพื่อประกาศความจงรักภักดี และร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ ๘๙ ณ ลานทัศนาภิรมย์ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมีกำลังพลกองทัพเรือ หน่วยงานราชการ สถานศึกษา และประชาชนในพื้นที เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้นจำนวน ๑,๙๘๙ คน
เป็นไปตามที่ รัฐบาลกำหนดจัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” เพื่อประกาศความจงรักภักดี และ ร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ ๘๙ ในวันอังคารที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เวลา ๐๘๐๐ พร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ โดยร่วมกันจัดกิจกรรมสำคัญ ตามกรอบแนวความคิด ทำดีด้วยกาย วาจา และใจ ทั้งนี้กิจกรรมที่กองทัพเรือทั้งส่วนกลาง และภูมิภาคจัดให้มีขึ้นประกอบด้วย
๑. การทำดีด้วยกาย ประกอบด้วย - การเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร โดยมีเรือเก็บขยะ จำนวนกว่า ๕๐ ลำ ดำเนินการเก็บขยะร่วมกับชุมชนต่างๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองโดยรอบที่ตั้ง กองบัญชาการกองทัพเรือ เช่น คลองบางกอกน้อย คลองบางกอกใหญ่ เป็นต้น - กิจกรรมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล
๒. การทำดีด้วยวาจา ประกอบด้วย - การกล่าวปฏิญาณตน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงพระราชนิพนธ์ บรรเลงโดยวงซิมโฟนีออเคสตร้าดุริยางค์ราชนาวี ร่วมด้วยนักดนตรี ๑๐๐ นาย นักร้องประสานเสียง ๕๐ นาย ขับร้องนำโดย เรือตรี สันติ ลุนเผ่
๓. การทำดีด้วยใจ ประกอบด้วย - กิจกรรมอธิษฐาน ด้วยการทำสมาธิ สำรวมจิตภาวนาแผ่เมตตา ทั้งนี้หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่ต่างๆ จัดกิจกรรมสวดมนต์ บำเพ็ญจิตภาวนา
หอประชุมกองทัพเรือ ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมในวันนี้ ได้เคยมีโอกาสใช้เป็นที่รับเสด็จ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระบมวงศานุวงศ์ พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี เมื่อวันที่ ๑๒ มิ.ย.๔๙ และต่อมาเมื่อวันที่ ๒๔ เม.ย.๕๘ เวลา ๑๔๐๘ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินจาก โรงพยาบาลศิริราช มาประทับเปลี่ยนพระอิริยาบถและทอดพระเนตรทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ห้องชมชลธี หอประชุมกองทัพเรือ เป็นการส่วนพระองค์ นับเป็นครั้งสุดท้ายที่หอประชุมกองทัพเรือ ได้มีโอกาสใช้เป็นสถานที่รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
กิจกรรมในครั้งนี้ กองทัพเรือ ได้นำเรืออังสนา ซึ่งกองทัพเรือเคยจัดถวายเป็นเรือพระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาร่วมในการจัดกิจกรรม เพื่อสะท้อนถึง พระมหากรุณาธิคุณ ในเรื่องของพลังงานทดแทน ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริในเรื่องของการพัฒนาพลังงานทดแทนเพื่อช่วยบรรเทาภาระประเทศในยามวิกฤตมาช้านาน การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเชื้อเพลิงชีวภาพของโครงการโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๒๘ ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำริว่าในอนาคตอาจเกิดการขาดแคลนน้ำมัน จึงมีพระราชประสงค์ให้นำอ้อยมาผลิตแอลกอฮอล์เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยพระราชทานเงินทุนวิจัยเริ่มต้นเป็นจำนวน ๙๒๕,๕๐๐ บาท โดยในปี พ.ศ.๒๕๔๓ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาและกองงานส่วนพระองค์ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เริ่มการทดลองนำน้ำมันปาล์มมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ในปีเดียวกัน กรมอู่ทหารเรือ ได้เริ่มต้นงานวิจัยพัฒนาด้านพลังงานทดแทนเพื่อการผลิตไบโอดีเซล โครงการดังกล่าวประสบผลสำเร็จเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๑ พ.ย.๔๕ โดยกรมอู่ทหารเรือสามารถผลิตและนำน้ำมันไบโอดีเซล (B-100) มาใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมกับก๊าซธรรมชาติในพาหนะขนาดใหญ่ ได้แก่ รถยนต์โดยสาร และรถบรรทุก ตลอดจนเรือเวรข้ามฝากเพื่อการขนส่งของกองทัพเรือ และในวันที่ ๗ พ.ค.๔๗ กรมอู่ทหารเรือได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากภาครัฐและเอกชน ในการสร้างโรงงานและติดตั้งระบบผลิตไบโอดีเซลแบบต่อเนื่อง ขนาด ๒,๐๐๐ ลิตรต่อวัน ในพระตำหนักสวนจิตรลดา
สำหรับการ " ใช้น้ำมันไบโอดีเซลในเรืออังสนานั้น " เป็นไปตามกระแสพระราชดำรัสเกี่ยวกับพลังงานทดแทนไบโอดีเซล ที่ได้พระราชทาน แก่ผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ ๔ ธ.ค.๕๐ โดย สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท.ได้ร่วมกับ กรมอู่ทหารเรือ ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาความเสถียรของน้ำมันไบโอดีเซล B100 พร้อมทั้งทดสอบการใช้น้ำมันไบโอดีเซลในเรือ "อังสนา" เพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทนสำหรับเครื่องยนต์ในเรือรบและเรือปฏิบัติการ อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่กองทัพเรือและมีการนำน้ำมันไบโอดีเซลไปใช้อย่างกว้างขวางต่อไป ที่สำคัญจะช่วยให้กองทัพเรือประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และช่วยประเทศชาติลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศได้อีกทางหนึ่ง ต่อมากองทัพเรือเร่งดำเนินการปรับปรุงเรืออังสนา เป็นเรือพระที่นั่งในการนำเสด็จพระดำเนิน ไปทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ และทรงเปิดสะพานภูมิพล ๑ สะพานภูมิพล ๒ ณ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ ๒๔ พ.ย.๓๓ ให้สามารถใช้ไบโอดีเซล 100% ทดแทนน้ำมันดีเซล ได้ตามแนวพระราชดำรัส และ ต่อมาในวันที่ ๗ ก.ค.๕๔ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จไปยังท่าเทียบเรือสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช เพื่อประทับเรืออังสนา ที่กองทัพเรือจัดถวายเป็นเรือพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด ๕ โครงการชลประทาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ “น้ำสร้างชีวิต” บริเวณหน้ากรมชลประทาน สามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ พร้อมทอดพระเนตรสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ประสบอุทกภัยเมื่อปี ๒๕๕๔
ข้อมูล กปส.สจว.กพร.ทร.
๒๒ พ.ย.๕๙
รูปภากจาก : กปส.สจว.กพร.ทร. |
๑. การทำดีด้วยกาย ประกอบด้วย - การเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร โดยมีเรือเก็บขยะ จำนวนกว่า ๕๐ ลำ ดำเนินการเก็บขยะร่วมกับชุมชนต่างๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองโดยรอบที่ตั้ง กองบัญชาการกองทัพเรือ เช่น คลองบางกอกน้อย คลองบางกอกใหญ่ เป็นต้น - กิจกรรมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล
๒. การทำดีด้วยวาจา ประกอบด้วย - การกล่าวปฏิญาณตน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงพระราชนิพนธ์ บรรเลงโดยวงซิมโฟนีออเคสตร้าดุริยางค์ราชนาวี ร่วมด้วยนักดนตรี ๑๐๐ นาย นักร้องประสานเสียง ๕๐ นาย ขับร้องนำโดย เรือตรี สันติ ลุนเผ่
๓. การทำดีด้วยใจ ประกอบด้วย - กิจกรรมอธิษฐาน ด้วยการทำสมาธิ สำรวมจิตภาวนาแผ่เมตตา ทั้งนี้หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่ต่างๆ จัดกิจกรรมสวดมนต์ บำเพ็ญจิตภาวนา
รูปภากจาก : กปส.สจว.กพร.ทร. |
รูปภาพจาก : http://oknation.nationtv.tv/blog/petpetpe/2012/07/04/entry-1 |
ข้อมูล กปส.สจว.กพร.ทร.
๒๒ พ.ย.๕๙
Comments