ประเทศไทยให้ความสำคัญในการตรวจสอบเรือประมงทั้งสัญชาติไทย และที่มิใช่สัญชาติไทย ที่มีการทำการประมงและเข้าออกจากท่าเรือของไทย ไม่ให้ละเมิดหรือกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายประมงของไทย ซึ่งขณะนี้ ทางการไทยกำลังเร่งรัดปรับปรุงกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและมีมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ดังนั้น รัฐบาลจึงมอบหมายให้ ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ซึ่งปัจจุบัน พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็น ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ให้เป็นตามหลักสากล
เมื่อวันที่ ๒๒ พ.ย.๕๙ หน่วยงานใน ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต ๓ (ศรชล. เขต ๓) ตำรวจน้ำ ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (IUU) ได้ควบคุมเรือประมงต่างชาติที่อ้างสัญชาติโบลิเวียแจ้งเข้าจอด ณ ท่าเรือ จว.ภูเก็ต
ศรชล.เขต ๓ โดย พลเรือโท สุรพล คุปตะพันธ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต ๓ (ผอ.ศรชล.เขต ๓) ได้มีการดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนด ทั้งการควบคุมและกำกับดูแลการตรวจเรือประมงในทะเล การปฏิบัติงานของศูนย์รายงานเรือเข้า – ออก (ศูนย์ PIPO) ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน
สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการตรวจสอบเรือประมงต่างประเทศที่อ้างสัญชาติโบลิเวียเพื่อเข้าจอดที่จังหวัดภูเก็ต บริเวณท่าเรือศรีไทย และท่าเรือประมงภูเก็ต ว่าจะมีการกระทำผิดกฎหมาย IUU หรือกฎหมายอื่น ๆ ของประเทศไทยรวมทั้งการสวมทะเบียนเรือ ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจาก วันที่ ๑๖ พ.ย.๕๙ ที่ผ่านมา ศูนย์เฝ้าตรวจเรือประมงได้แจ้ง ศปมผ. ถึงความผิดปกติ ศปมผ. ได้สั่งการให้ ศรชล.เขต ๓ ทำการตรวจสอบเรือประมงสัญชาติโบลิเวีย จำนวน ๙ ลำ ประกอบด้วย เรือ YUTUNA NO.1 เรือ YUTUNA NO.3 เรือ ABUNDANT 1 เรือ ABUNDANT 3 เรือ ABUNDANT 6 เรือ ABNDANT 9 เรือ ABNDANT 12 เรือ SHUN LAI และเรือ SHENG JI QUN 3 ผลการตรวจสอบพบว่ามีเรือจอดอยู่ที่ท่าเรือ จำนวน ๗ ลำ ส่วนอีก ๒ ลำ คือ เรือ YUTUNA NO.1 นั้น แจ้งประสงค์จะเข้าจอด แต่ไม่ได้เข้าจอด และเรือ SHENG JI QUN 3 ได้ออกเรือไปแล้ว เมื่อ ๑๕ พ.ย.๕๙ เรือทั้งหมดเป็นเรือประมงเบ็ดทูน่า โดยกล่าวอ้างว่ามาจอดเรือเพื่อซ่อมทำตัวเรือ กัปตันเรือส่วนใหญ่เป็น ชาวไต้หวัน ลูกเรือเป็นชาวอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ทุกคนมีเอกสารถูกต้อง พบความผิดของเรือ SHUN LAI และเรือ ABUBANT 9 ที่ไม่รายงานเข้ามาต่อเจ้าท่าภายใน ๒๔ ชม. ซึ่ง สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุดแล้ว (ลำละ ๕,๐๐๐ บาท)
การตรวจสอบนั้นพบข้อพิรุธเกี่ยวกับทะเบียนเรือที่ระบุเป็นสัญชาติโบลิเวียว่าจะเป็นเอกสารที่ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากเรือแต่ละลำมีลักษณะเอกสารที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงสั่งการให้ สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ดำเนินการประสานและตรวจสอบกับทางการของประเทศโบลิเวีย ต่อมาในวันที่ ๒๒ พ.ย.๕๙ MCPO.Javier Delgado, Tecnico de Registro, Bolivian International Ship’s Registry ได้แจ้งให้ทราบว่าเรือประมง จำนวน ๙ ลำ ไม่ได้จดทะเบียนสัญชาติโบลิเวีย หรือมีใบอนุญาตทำการประมงของโบลิเวีย ดังนั้น สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต จึงได้รวบรวมหลักฐานและแจ้งความดำเนินคดีกับตัวแทนเจ้าของเรือ จำนวน ๓ ราย ประกอบด้วย บริษัท เซี่ยงเฮา จำกัด (XIANG HAO Co.ltd.) บริษัท ยี้หงส์ ฟิชเชอรรี่ จำกัด (YIHONG Co.ltd.) และบริษัท ซ่วน หยิง จำกัด (SUANYING Co.ltd.) โดยได้แจ้งความที่ สภ.วิชิต ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จว.ภูเก็ต ในข้อหากรณีนำเอกสารปลอมมาจดแจ้งการรายงานเข้า – ออกท่าเรือ เป็นความผิดฐานปลอมและเอกสารปลอม โดยแจ้งความอันเป็นเท็จ สำหรับเรือทั้งหมด ๗ ลำ จะดำเนินการออกจากท่าได้เมื่อเจ้าของเรือมีการนำเอกสารที่ถูกต้องที่ระบุสัญชาติและประเทศที่จดทะเบียนมายืนยัน ปัจจุบันเรือดังกล่าวเสมือนเรือไร้สัญชาติ
การดำเนินการของ ศปมผ.ที่มอบหมายให้ ศรชล.เขต ๓ ดำเนินการในครั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย IUU ตามมาตรการ ณ ท่าเทียบเรือ
(Port State Measures) ที่จะต้องมีการตรวจสอบเรือประมงต่างชาติที่ขอเข้าเทียบท่าเทียบเรือของไทยเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม โดยเรือต่างชาติต้องขออนุญาตรัฐเจ้าของท่าก่อนที่จะนำเรือเข้าเทียบท่า และต้องแจ้งข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลทะเบียนเรือ อุปกรณ์จับสัตว์น้ำ และตู้สินค้าแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูล สน.ปชส.ศปมผ.
๒๙ พ.ย.๕๙
เมื่อวันที่ ๒๒ พ.ย.๕๙ หน่วยงานใน ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต ๓ (ศรชล. เขต ๓) ตำรวจน้ำ ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (IUU) ได้ควบคุมเรือประมงต่างชาติที่อ้างสัญชาติโบลิเวียแจ้งเข้าจอด ณ ท่าเรือ จว.ภูเก็ต
ศรชล.เขต ๓ โดย พลเรือโท สุรพล คุปตะพันธ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต ๓ (ผอ.ศรชล.เขต ๓) ได้มีการดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนด ทั้งการควบคุมและกำกับดูแลการตรวจเรือประมงในทะเล การปฏิบัติงานของศูนย์รายงานเรือเข้า – ออก (ศูนย์ PIPO) ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน
สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการตรวจสอบเรือประมงต่างประเทศที่อ้างสัญชาติโบลิเวียเพื่อเข้าจอดที่จังหวัดภูเก็ต บริเวณท่าเรือศรีไทย และท่าเรือประมงภูเก็ต ว่าจะมีการกระทำผิดกฎหมาย IUU หรือกฎหมายอื่น ๆ ของประเทศไทยรวมทั้งการสวมทะเบียนเรือ ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจาก วันที่ ๑๖ พ.ย.๕๙ ที่ผ่านมา ศูนย์เฝ้าตรวจเรือประมงได้แจ้ง ศปมผ. ถึงความผิดปกติ ศปมผ. ได้สั่งการให้ ศรชล.เขต ๓ ทำการตรวจสอบเรือประมงสัญชาติโบลิเวีย จำนวน ๙ ลำ ประกอบด้วย เรือ YUTUNA NO.1 เรือ YUTUNA NO.3 เรือ ABUNDANT 1 เรือ ABUNDANT 3 เรือ ABUNDANT 6 เรือ ABNDANT 9 เรือ ABNDANT 12 เรือ SHUN LAI และเรือ SHENG JI QUN 3 ผลการตรวจสอบพบว่ามีเรือจอดอยู่ที่ท่าเรือ จำนวน ๗ ลำ ส่วนอีก ๒ ลำ คือ เรือ YUTUNA NO.1 นั้น แจ้งประสงค์จะเข้าจอด แต่ไม่ได้เข้าจอด และเรือ SHENG JI QUN 3 ได้ออกเรือไปแล้ว เมื่อ ๑๕ พ.ย.๕๙ เรือทั้งหมดเป็นเรือประมงเบ็ดทูน่า โดยกล่าวอ้างว่ามาจอดเรือเพื่อซ่อมทำตัวเรือ กัปตันเรือส่วนใหญ่เป็น ชาวไต้หวัน ลูกเรือเป็นชาวอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ทุกคนมีเอกสารถูกต้อง พบความผิดของเรือ SHUN LAI และเรือ ABUBANT 9 ที่ไม่รายงานเข้ามาต่อเจ้าท่าภายใน ๒๔ ชม. ซึ่ง สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุดแล้ว (ลำละ ๕,๐๐๐ บาท)
การตรวจสอบนั้นพบข้อพิรุธเกี่ยวกับทะเบียนเรือที่ระบุเป็นสัญชาติโบลิเวียว่าจะเป็นเอกสารที่ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากเรือแต่ละลำมีลักษณะเอกสารที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงสั่งการให้ สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ดำเนินการประสานและตรวจสอบกับทางการของประเทศโบลิเวีย ต่อมาในวันที่ ๒๒ พ.ย.๕๙ MCPO.Javier Delgado, Tecnico de Registro, Bolivian International Ship’s Registry ได้แจ้งให้ทราบว่าเรือประมง จำนวน ๙ ลำ ไม่ได้จดทะเบียนสัญชาติโบลิเวีย หรือมีใบอนุญาตทำการประมงของโบลิเวีย ดังนั้น สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต จึงได้รวบรวมหลักฐานและแจ้งความดำเนินคดีกับตัวแทนเจ้าของเรือ จำนวน ๓ ราย ประกอบด้วย บริษัท เซี่ยงเฮา จำกัด (XIANG HAO Co.ltd.) บริษัท ยี้หงส์ ฟิชเชอรรี่ จำกัด (YIHONG Co.ltd.) และบริษัท ซ่วน หยิง จำกัด (SUANYING Co.ltd.) โดยได้แจ้งความที่ สภ.วิชิต ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จว.ภูเก็ต ในข้อหากรณีนำเอกสารปลอมมาจดแจ้งการรายงานเข้า – ออกท่าเรือ เป็นความผิดฐานปลอมและเอกสารปลอม โดยแจ้งความอันเป็นเท็จ สำหรับเรือทั้งหมด ๗ ลำ จะดำเนินการออกจากท่าได้เมื่อเจ้าของเรือมีการนำเอกสารที่ถูกต้องที่ระบุสัญชาติและประเทศที่จดทะเบียนมายืนยัน ปัจจุบันเรือดังกล่าวเสมือนเรือไร้สัญชาติ
การดำเนินการของ ศปมผ.ที่มอบหมายให้ ศรชล.เขต ๓ ดำเนินการในครั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย IUU ตามมาตรการ ณ ท่าเทียบเรือ
(Port State Measures) ที่จะต้องมีการตรวจสอบเรือประมงต่างชาติที่ขอเข้าเทียบท่าเทียบเรือของไทยเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม โดยเรือต่างชาติต้องขออนุญาตรัฐเจ้าของท่าก่อนที่จะนำเรือเข้าเทียบท่า และต้องแจ้งข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลทะเบียนเรือ อุปกรณ์จับสัตว์น้ำ และตู้สินค้าแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูล สน.ปชส.ศปมผ.
๒๙ พ.ย.๕๙
Comments