รองผู้บัญชาการทหารเรือ เยี่ยม ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ กองทัพเรือ ที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดนครพนม
เมื่อวันที่ ๒๒ ส.ค.๖๐ พลเรือเอก พลเดช เจริญพูล รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำ จ.นครพนม โดยรับฟังบรรยายสรุปภารกิจผลักดันน้ำและการช่วยเหลือประชาชนจาก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม ณ กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม โดยรองผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม บำรุงขวัญกำลังพล ศบภ.นรข.เขตนครพนม และ ฉก.ผดน.จาก อจปร.บริเวณสะพานบ้านนาเพียง (สะพานข้ามแม่น้ำสงคราม) อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พร้อมปล่อยขบวนลำเลียงเรือผลักดันน้ำเดินทางกลับสู่ที่ตั้ง หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเร่งผลักดันน้ำ
ในการนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ได้ดำเนินการเดินเครื่องผลักดันน้ำ ตั้งแต่วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๐บริเวณสะพานสงครามบ้านนาเพียง (ข้ามแม่น้ำศรีสงคราม) บ้านปากอูน ตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เพื่อเร่งระบายลงสู่แม่น้ำโข่ง ผ่านแม่น้ำสงคราม ช่วงปากอูน - ศรีสงคราม ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จนถึงวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ รวมระยะเวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น ๑๔ วัน โดยการปฏิบัติที่ผ่านมา เรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือ ทั้ง ๔๗ ลำ สามารถผลักดันน้ำได้ ๖๘,๘๘๔,๗๐๔ ลูกบาศก์เมตร หรือ สามารถผลักดันน้ำได้ ๑๐๔,๖๘๘ ลูกบาศก์เมตร/เครื่อง/วัน ซึ่งสามารถดึงมวลน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดนครพนม ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าปล่อยตามธรรมชาติลงสู่แม่น้ำโขงจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๓๐ วัน ทำให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติสุขอย่างรวดเร็ว และสามารถตอบสนองนโยบายได้อย่างรวดเร็วตามห้วงเวลา
ข้อมูล ศบภ.ทร./กปส.สจว.กพร.ทร. ๒๓ ส.ค.๖๐
ในการนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ได้ดำเนินการเดินเครื่องผลักดันน้ำ ตั้งแต่วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๐บริเวณสะพานสงครามบ้านนาเพียง (ข้ามแม่น้ำศรีสงคราม) บ้านปากอูน ตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เพื่อเร่งระบายลงสู่แม่น้ำโข่ง ผ่านแม่น้ำสงคราม ช่วงปากอูน - ศรีสงคราม ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จนถึงวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ รวมระยะเวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น ๑๔ วัน โดยการปฏิบัติที่ผ่านมา เรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือ ทั้ง ๔๗ ลำ สามารถผลักดันน้ำได้ ๖๘,๘๘๔,๗๐๔ ลูกบาศก์เมตร หรือ สามารถผลักดันน้ำได้ ๑๐๔,๖๘๘ ลูกบาศก์เมตร/เครื่อง/วัน ซึ่งสามารถดึงมวลน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดนครพนม ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าปล่อยตามธรรมชาติลงสู่แม่น้ำโขงจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๓๐ วัน ทำให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติสุขอย่างรวดเร็ว และสามารถตอบสนองนโยบายได้อย่างรวดเร็วตามห้วงเวลา
ข้อมูล ศบภ.ทร./กปส.สจว.กพร.ทร. ๒๓ ส.ค.๖๐
Comments