Skip to main content

ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ประสานสาธารณรัฐอินโดนีเซียนำแรงงานประมงกลับประเทศไทย

เมื่อวันที่ ๑๓ พ.ค.๖๐ ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) โดยคณะทำงานด้านแรงงาน ศปมผ. รับลูกเรือซิลเวอร์ซี ๒ จำนวน ๓ คน กลับสู่ประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ภายหลังจากการประสานงานกับทางการอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๕๙
          จากกรณีเรือซิลเวอร์ซี ๒ ซึ่งเป็นเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ และ ลูกเรือจำนวน ๑๓ คน ของบริษัท ซิลเวอร์ซี รีเฟอร์ จำกัด ถูกเรือของกองทัพเรืออินโดนีเซียเข้าจับกุมในระหว่างที่เรือจะเดินทางกลับประเทศไทย ขณะผ่านน่านน้ำของอินโดนีเซีย และได้แจ้งข้อกล่าวหาไม่ขออนุญาตแจ้งการขนถ่ายสัตว์น้ำ และไม่แจ้งการเดินเรือผ่านน่านน้ำอินโดนีเซีย เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๘
          ภายหลังจากที่รัฐบาลได้จัดตั้ง ศปมผ. ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๑๐/๒๕๕๘ เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๘ นั้น ศปมผ. โดยคณะทำงานด้านแรงงานดำเนินการรวบรวมคดีต่างๆ และได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านแรงงานประสานงานกับสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่องดังนี้
          - เดือนกันยายน ๒๕๕๙ ศปมผ. ส่งเจ้าหน้าที่ด้านแรงงานเดินทางไปประสานขอให้เจ้าหน้าที่ประมงอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวน อนุญาตให้ลูกเรือที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ของลูกเรือฯ ให้เดินทางกลับประเทศไทย (ตามหลักกฎหมายสากล ลูกเรือ และประจำเรือที่ไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของเรือไม่มีความผิด)
          - วันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ลูกเรือฯ ชุดแรก จำนวน ๙ คน ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศไทย โดยกัปตัน และลูกเรือฯ อีก ๓ คน ยังอยู่ในกระบวนการดำเนินคดีของอินโดนีเซีย
          - วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ศปมผ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านแรงงานเดินทางไปประสานงาน ครั้งที่ ๒ ขอให้เจ้าหน้าที่ประมงอินโดนีเซียเร่งรัดการดำเนินคดี
          - วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๐ ได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลอินโดนีเซียนัดสืบพยาน และอนุญาตให้ลูกเรือที่เป็นพยานเดินทางกลับประเทศไทยได้ 
          - วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๐ ศาลฯ นัดสอบพยานครั้งที่ ๑ โดยมีลูกเรือฯ จำนวน ๓ คน อยู่เป็นพยาน
          - วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ศาลฯ นัดสอบพยานครั้งที่ ๒ ลูกเรือฯ ๓ คน อยู่เป็นพยาน
          - วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ลูกเรือฯ จำนวน ๓ คน ได้รับอนุญาตให้กลับประเทศ ได้แก่
             นายชลอ พุ่มเปี่ยม ตำแหน่ง ต้นกลเรือ
             นายสถาพร พึ่งชื่น ตำแหน่ง ต้นเรือ
             นายพรศักดิ์ ผายเงิน ตำแหน่ง ต้นหนเรือ 
          แต่กัปตันเรือยังคงอยู่รอฟังคำพิพากษาของศาลอินโดนีเซีย ต่อไป ทั้งนี้ บริษัท ซิลเวอร์ซี รีเฟอร์ จำกัด ได้ต่อสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งใช้ระยะเวลาสู้คดีเป็นระยะเวลานาน ปรากฏข้อกล่าวหาเรื่องการขนถ่ายสัตว์น้ำ ทางบริษัทมีหลักฐานชี้แจงครบถ้วนทำให้พ้นมลทิน แต่กรณีการเดินทางผ่านน่านน้ำอินโดนีเซียนั้น เรือหลายสัญชาติได้ใช้เส้นทางดังกล่าวในการเดินเรือผ่านน่านน้ำอินโดนีเซียเช่นกัน ดังนั้น ศปมผ. จะประสานทางการอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด และคาดหวังว่าทางการอิโดนีเซียจะได้พิจารณาในคดีความต่างๆ ให้มีความยุติธรรม และพิจารณาปล่อยเรือซิลเวอร์ซี ๒ รวมทั้งกัปตัน ให้เดินทางกลับประเทศไทย เพื่อพบครอบครัว และญาติ ที่เฝ้าคอยด้วยความเป็นห่วง
                                                                                ข้อมูล สำนักประชาสัมพันธ์ ศปมผ.
                                                                                                   ๑๕ พ.ค.๖๐

Comments

Popular posts from this blog

กง.ทร.พัฒนาระบบ E-mobile Slip ใช้ตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนผ่านสมาร์ทโฟน

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการกองทัพเรือ กองทัพเรือ โดยกรมการเงินทหารเรือ ได้พัฒนาระบบ E-mobile Slip เพื่อให้ข้าราชการกองทัพเรือสามารถตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนได้ด้วยตนเองผ่านทางระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Smart Phone) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ เข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานครั้งแรก เพื่อตั้งค่ารหัสผ่านในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือที่ http://info.navy.mi.th/finance แบนเนอร์ “สลิปเงินเดือน” หลังเข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานแล้ว โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Android สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมผ่าน Play Store โดยค้นหาคำว่า “e-slip” และติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ iOS ให้เปิด Browser และเข้าเว็บไซต์ http://www.finance.navy.mi.th/mobile_https หรือด้วยการสแกนผ่านบาร์โค้ดในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือ จากนั้นจึงเข้าใช้งานด้วยรหัสผู้ใช้งานเป็นเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ ข้อมูล กง.ทร. ๒๘ ก.ย.๕๙

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า “พฤฒเวชโฮมแคร์” ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ โดยทีมงานคุณภาพมาตรฐาน เพื่อความสุขสบายของคนที่คุณรัก ภายในบรรยากาศที่อบอุ่นเสมือนบ้าน รับผู้สูงอายุชาย – หญิง อายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป            นอกจากนั้นยังจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ตามสภาพร่างกาย และความเหมาะสมของผู้เข้ารับการบริการ เช่น การทำบุญตักบาตร การสวดมนต์ การสนทนา โดยใช้หลักจิตวิทยาเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง การออกกำลังกาย กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการแพทย์ตรวจเยี่ยม ๒ ครั้งต่อเดือน แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูตรวจเยี่ยม ๑ ครั้งต่อเดือน พยาบาลวิชาชีพเยี่ยมประเมิน ๔ ครั้งต่อเดือน ผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโลเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๖ ๑๖๑๕ ๒๖๕๒ และ ๐๘ ๖๓๘๒ ๗๖๙๙                                                                         ข้อมูล รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ

กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวีให้บริการจัดการศพแบบครบวงจร

ฌาปนสถานกองทัพเรือ วัดเครือวัลย์วรวิหาร ให้บริการจัดการศพแบบครบวงจร โดยให้คำแนะนำในการแจ้งเสียชีวิตและจัดการศพ, ติดต่อประสานงานกับการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี, จัดหาหีบศพพร้อมรถบริการรับ-ส่งศพ, จัดหาดอกไม้ประดับหน้าศพและพวงหรีด, จัดหาเครื่องไทยธรรมพร้อมดอกไม้ถวายพระ, จัดหาอาหารและเครื่องดื่ม, จัดหาดอกไม้จันทน์พร้อมช่อเชิญประธาน และติดต่อแนะนำสถานที่ในการลอยอังคาร สอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๖๕ ๑๐๑๓, ๐ ๒๔๗๕ ๕๑๖๒, ๐ ๒๔๗๕ ๓๒๑๙ ข้อมูล กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี ๑๔ พ.ค.๕๘