Skip to main content

ความเคลื่อนไหวของกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑(Combined Task Force 151 : CTF 151)





ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ กองทัพเรือจัดกำลังพลของกองทัพเรือไปปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ (Combined Task Force 151 : CTF 151) พร้อมฝ่ายอำนวยการ ไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดในพื้นที่อ่าวเอเดน ชายฝั่งโซมาเลีย และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งพลเรือเอก ดำรงศักดิ์ ห้าวเจริญ เสนาธิการทหารเรือ ได้เป็นประธานในพิธีส่ง พลเรือตรี ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ ผู้บัญชาการกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ (CTF 151)พร้อมฝ่ายอำนวยการ รวม ๑๖ นาย ไปปฏิบัติหน้าที่ฯ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อ ๑๑ มี.ค.๕๕ ที่ผ่านมานั้น ในห้วงที่ผ่านมาได้มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญดังนี้
๑. เมื่อ ๑๓ มี.ค.๕๕ พล.ร.ต.ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ ผบ.กองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ พร้อมคณะได้เดินทางเข้าเยี่ยมคำนับ พล.ร.ท.มาร์ค ฟ๊อก ผบ.กองกำลังผสมทางทะเล (Commander Combined Maritime Forces : CCMF ) ณ กองบัญชาการกองเรือภาคพื้นตะวันออกกลาง ซึ่ง พล.ร.ท.มาร์ค ฟ๊อก ได้กล่าวต้อนรับ พร้อมกับแสดงความยินดีกับ ทร. ที่ได้รับเกียรติในภารกิจในครั้งนี้ รวมทั้งได้มีประเด็นหารือที่สำคัญประกอบด้วย
๑.๑ การสร้างความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาค โดย พล.ร.ท.มาร์ค ฟ๊อก ได้กล่าวชื่นชมการปฏิบัติงานของ พล.ร.จ.เจนเซน กองทัพเรือเดนมาร์ก ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ผบ.กองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ (คนเดิม)โดยเฉพาะการปฏิบัติงานในห้วงที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นความก้าวหน้าในการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาค รวมทั้งการสร้างโอกาสในการประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิดกับกองกำลังต่างๆ ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ได้แก่ กองเรือเฉพาะกิจสหภาพยุโรป และกองเรือเฉพาะกิจของนาโต้ เพื่อให้มีการวางกำลังทางเรือครอบคลุมพื้นที่อันตราย นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นการประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิดกับกองกำลังทางเรืออิสระจากชาติต่างๆ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันมากขึ้น
๑.๒ ความก้าวหน้าในการมีส่วนร่วมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะนี้มีการพัฒนาความสัมพันธ์กันมากขึ้น เห็นได้จากการที่ประเทศมาเลเซียได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในกองกำลังผสมทางทะเล ซึ่งถือเป็นชาติที่ ๒๖
๑.๓ ความร่วมมือกับรัฐชายฝั่งที่ พล.ร.จ.เจนเซน ได้ดำเนินการมานับได้ว่ามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการพัฒนาแนวคิดของรัฐชายฝั่งที่จะมีส่วนร่วมในการรักษาผลประโยชน์ทางทะเลร่วมกัน
๒. เมื่อ ๑๔ มี.ค.๕๕ น.อ.วิศาล ปัณฑวังกูร เสนาธิการกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ พร้อมคณะได้เดินทางเข้าร่วมการประชุม Shared Awareness and De-confliction : SHADE ซึ่งจัดขึ้น ณ British Club กรุงมานามา โดยมี น.อ. John Carter เสนาธิการ กองกำลังผสมทางทะเล เป็นประธานฯ โดย SHADE นั้น ถือเป็นเวทีการประชุมสำคัญ ที่ได้รับการจัดตั้งมาตั้งแต่ปี ๒๐๐๘ ในช่วงที่สถานการณ์การกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลียมีสูงขึ้น ประกอบกับมีประเทศต่างๆ ส่งเรือรบของตนเองเข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่จำนวนมาก โดยไม่มีระเบียบปฏิบัติร่วมกัน และในปี ๒๐๐๘ นี้เองที่สหรัฐฯเล็งเห็นความสำคัญของการเป็นสื่อกลางในการรวบรวมความพยายามทั้งมวลให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยการจัดการประชุมSHADE โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกลไกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการประสานการปฏิบัติของกองเรือต่างๆ เพื่อลดความซํ้าซ้อน การส่งเสริมและสนับสนุนให้ เรือสินค้ามีมาตรการป้องกันตนเอง และ การสนับสนุนให้มีการปฏิบัติงานร่วมกัน
๓. เมื่อ ๒๙ มี.ค.๕๕ พล.ร.ท.มาร์ค ฟ๊อก ผบ.กองกำลังผสมทางทะเล (Commander Combined Maritime Forces: CCMF) และ ผู้บัญชาการ กองเรือที่ ๕ (Commander of the Fifth Fleet) เป็นประธานในพิธีรับ – ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ บนเรือ USS HALSEY ณ ท่าเรือ สุลต่านคาบุช กรุงมัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน ซึ่งเป็นเรือบัญชาการของ พล.ร.จ.เจนเซน กองทัพเรือเดนมาร์ก ซึ่งในการประกอบพิธี พล.ร.จ.เจนเซน ได้ส่งมอบหน้าที่การบังคับบัญชา กองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ ให้กับ พล.ร.ต.ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ ทำหน้าที่บังคับบัญชากองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ บนเรือ RFA FORT VICTORIA เป็นระยะเวลา ๓ เดือน โดยมีนายวิชัย วราศิริกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงมานามา ราชอาณาจักรบาห์เรน และนายพรชัย ด่านวิวัฒน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงมัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน รวมทั้ง นางสาว รัศมี คุ้มไพโรจน์ อัครราชทูตที่ปรึกษาฯ ร่วมพิธีด้วย ทั้งนี้ภายหลังจากการประกอบพิธีฯ พล.ร.ท.มาร์ค ฟ๊อก และคณะ ได้ตรวจเยี่ยมกำลังพลกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ บนเรือ RFA FORT VICTORIA ด้วย
สำหรับกองบัญชาการกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ มีกำลังพลทั้งหมด ๒๕ นาย จาก ๗ ชาติประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ อิตาลี เกาหลี ซาอุดิอาระเบีย และไทย โดยมีกำลังทางเรือจากชาติต่างๆ ๕ ลำประกอบด้วย เรือจาก สหรัฐอเมริกา ๒ ลำ สหราชอาณาจักร ๒ ลำ เกาหลี ๑ ลำ ทั้งนี้ในภารกิจป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด และการปล้นเรือในทะเลดังกล่าวจะมีพื้นที่ปฏิบัติการประมาณ ๒.๕ ล้านตารางไมล์ นับตั้งแต่ชายฝั่งตะวันตกของอินเดียบริเวณลองติจูด ๖๘ องศาตะวันออก ไปจรดฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา ครอบคลุมพื้นที่อ่าว เอเดน และทะเลแดง ทางเหนือนับตั้งแต่ช่องแคบฮอร์มุส จรด หมู่เกาะซีเซล์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย

Comments

Popular posts from this blog

กง.ทร.พัฒนาระบบ E-mobile Slip ใช้ตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนผ่านสมาร์ทโฟน

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการกองทัพเรือ กองทัพเรือ โดยกรมการเงินทหารเรือ ได้พัฒนาระบบ E-mobile Slip เพื่อให้ข้าราชการกองทัพเรือสามารถตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนได้ด้วยตนเองผ่านทางระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Smart Phone) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ เข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานครั้งแรก เพื่อตั้งค่ารหัสผ่านในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือที่ http://info.navy.mi.th/finance แบนเนอร์ “สลิปเงินเดือน” หลังเข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานแล้ว โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Android สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมผ่าน Play Store โดยค้นหาคำว่า “e-slip” และติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ iOS ให้เปิด Browser และเข้าเว็บไซต์ http://www.finance.navy.mi.th/mobile_https หรือด้วยการสแกนผ่านบาร์โค้ดในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือ จากนั้นจึงเข้าใช้งานด้วยรหัสผู้ใช้งานเป็นเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ ข้อมูล กง.ทร. ๒๘ ก.ย.๕๙

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า “พฤฒเวชโฮมแคร์” ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ โดยทีมงานคุณภาพมาตรฐาน เพื่อความสุขสบายของคนที่คุณรัก ภายในบรรยากาศที่อบอุ่นเสมือนบ้าน รับผู้สูงอายุชาย – หญิง อายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป            นอกจากนั้นยังจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ตามสภาพร่างกาย และความเหมาะสมของผู้เข้ารับการบริการ เช่น การทำบุญตักบาตร การสวดมนต์ การสนทนา โดยใช้หลักจิตวิทยาเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง การออกกำลังกาย กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการแพทย์ตรวจเยี่ยม ๒ ครั้งต่อเดือน แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูตรวจเยี่ยม ๑ ครั้งต่อเดือน พยาบาลวิชาชีพเยี่ยมประเมิน ๔ ครั้งต่อเดือน ผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโลเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๖ ๑๖๑๕ ๒๖๕๒ และ ๐๘ ๖๓๘๒ ๗๖๙๙                                                                         ข้อมูล รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ

กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวีให้บริการจัดการศพแบบครบวงจร

ฌาปนสถานกองทัพเรือ วัดเครือวัลย์วรวิหาร ให้บริการจัดการศพแบบครบวงจร โดยให้คำแนะนำในการแจ้งเสียชีวิตและจัดการศพ, ติดต่อประสานงานกับการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี, จัดหาหีบศพพร้อมรถบริการรับ-ส่งศพ, จัดหาดอกไม้ประดับหน้าศพและพวงหรีด, จัดหาเครื่องไทยธรรมพร้อมดอกไม้ถวายพระ, จัดหาอาหารและเครื่องดื่ม, จัดหาดอกไม้จันทน์พร้อมช่อเชิญประธาน และติดต่อแนะนำสถานที่ในการลอยอังคาร สอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๖๕ ๑๐๑๓, ๐ ๒๔๗๕ ๕๑๖๒, ๐ ๒๔๗๕ ๓๒๑๙ ข้อมูล กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี ๑๔ พ.ค.๕๘