นายแพทย์ ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ระหว่างวันที่ ๒๘ กันยายน ถึงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ สิ่งที่ผู้บริโภคต้องให้ความสำคัญคือ การเลือกซื้ออาหารเจควรหลีกเลี่ยงอาหารผัดและทอดที่จะทำให้ร่างกายสะสมไขมัน น้ำหนักตัวเพิ่ม และกลายเป็นโรคอ้วนในที่สุด เพื่อสุขภาพที่ดีให้เลือกกินอาหารเจที่ปรุงด้วยการต้ม นึ่ง ย่าง ยำ อบ สำหรับอาหารเจที่มีรสเค็มจัด ควรหลีกเลี่ยง เพราะการกินเค็มจัดจะนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง ผู้บริโภคจึงควรเลือกกินอาหารเจที่หลากหลายและกินให้ครบทั้ง ๕ หมู่ ในแต่ละมื้อ โดยเฉพาะอาหารที่ให้สารอาหารโปรตีนที่ได้จากถั่วเมล็ดแห้ง ไม่ใช่จากแป้งที่นำมาดัดแปลงรูปร่างให้เหมือนกับเนื้อสัตว์ ทำให้เมื่อกินเข้าไปจะได้เฉพาะแป้งกับผัก ซึ่งมีผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคในช่วงเทศกาลกินเจ คือ ให้เน้นกินผัก ผลไม้ จะช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจขาดเลือด และโรคอัมพาตได้ นอกจากนี้ ในผักและผลไม้ ยังมี วิตามินซี เบต้าแคโรทีน วิตามินอี ซีลีเนียม ทองแดง แมงกานีส และสังกะสี ช่วยยับยั้งกระบวนการเกิดโรคมะเร็ง เป็นตัวทำลายสารพิษที่เป็นตัวก่อมะเร็งหรือที่เรียกว่า "อนุมูลอิสระ" ไม่ให้ไปทำอันตรายต่อเซลล์ในร่างกายได้ ดังนั้น การกินผักใบเขียวสดเป็นประจำในปริมาณที่มากเพียงพอต่อร่างกาย ส่งผลให้วิตามินและแร่ธาตุในผักใบเขียว ช่วยให้การเคลื่อนตัวของลำไส้ดีและขับถ่ายได้สะดวกอีกด้วย
ข้อมูลข่าวสาร ทร.
๒๙ ก.ย.๕๑
ทั้งนี้ ทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคในช่วงเทศกาลกินเจ คือ ให้เน้นกินผัก ผลไม้ จะช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจขาดเลือด และโรคอัมพาตได้ นอกจากนี้ ในผักและผลไม้ ยังมี วิตามินซี เบต้าแคโรทีน วิตามินอี ซีลีเนียม ทองแดง แมงกานีส และสังกะสี ช่วยยับยั้งกระบวนการเกิดโรคมะเร็ง เป็นตัวทำลายสารพิษที่เป็นตัวก่อมะเร็งหรือที่เรียกว่า "อนุมูลอิสระ" ไม่ให้ไปทำอันตรายต่อเซลล์ในร่างกายได้ ดังนั้น การกินผักใบเขียวสดเป็นประจำในปริมาณที่มากเพียงพอต่อร่างกาย ส่งผลให้วิตามินและแร่ธาตุในผักใบเขียว ช่วยให้การเคลื่อนตัวของลำไส้ดีและขับถ่ายได้สะดวกอีกด้วย
ข้อมูลข่าวสาร ทร.
๒๙ ก.ย.๕๑
Comments