เต่าทะเลไทยขาดแหล่งวางไข่

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยผลสำรวจและประเมินสถานการณ์สัตว์ทะเลหายากของไทยทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทยในปัจจุบันพบว่า เต่าทะเลอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่สุด ปัจจุบันเหลือจำนวนเต่าทะเลที่พบในไทยที่เป็นพ่อแม่พันธุ์ไม่ถึง ๕๐๐ ตัว ส่วนใหญ่ร้อยละ ๘๐ อยู่ในฝั่งอ่าวไทย (ประมาณ ๔๐๐ ตัว) สาเหตุที่สำคัญ เนื่องจากชายหาดที่เป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลถูกรุกรานจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ล่าสุดเหลือชายหาดที่เต่าทะเลสามารถวางไข่ตามธรรมชาติขนาดใหญ่ได้เพียง ๓ แห่งเท่านั้น คือ เกาะคราม จังหวัดชลบุรี เกาะหนึ่ง และเกาะหูหยง ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดกระบี่
สำหรับแนวทางการจัดการเบื้องต้นเพื่อการดูแลและอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะเร่งดำเนินการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งแพร่พันธุ์อย่างเข้มงวดและรณรงค์ การปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทุกภาคส่วน โดยในส่วนของกองทัพเรือนั้น ได้ดำเนินการด้านการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยจัดเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามหาดต่างๆ บนเกาะคราม เกาะอีร้า และเกาะจาน เพื่อเฝ้าตรวจการลักลอบเก็บไข่เต่า การทำลายแหล่งขยายพันธุ์เต่าทะเล รวมทั้งรวบรวมไข่เต่า นำมาเพาะฟัก และอนุบาลจนลูกเต่าจนแข็งแรงพอที่จะปล่อยลงสู่ท้องทะเล ออกไปหากินได้เองตามธรรมชาติต่อไป และยังมีศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่อนุบาล ดูแล เต่าทะเล รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ให้เยาวชนและประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ และให้ความร่วมมือในการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล รวมทั้งสภาพแวดล้อมทางทะเลให้มีสภาพสมบูรณ์อันจะส่งผลให้เต่าทะเลอยู่คู่กับท้องทะเลไทยต่อไป


ข้อมูล เดลินิวส์
๑ ก.ย.๕๑