ในวันนี้ (๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๔)ระหว่างเวลา ๐๙๐๐ - ๑๑๓๐ กองทัพเรือจัดพิธีต้อนรับหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด กองทัพเรือ (มปจ.) ชุดที่ ๒ ซึ่งเสร็จสิ้นการปฏิบัติงานในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร 
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธานในพิธีฯ
ความเป็นมา
สถานการณ์ในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย รวมทั้งบริเวณใกล้เคียง มีสถิติการปล้นยึดเรือสินค้าและเรือประมงในพื้นที่ ที่มีความรุนแรงของสถานการณ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการเดินเรือ และมีแนวโน้มที่โจรสลัดจะขยายพื้นที่ปฏิบัติการมากขึ้น กับมีขีดความสามารถดำรงความต่อเนื่องในการปฏิบัติในพื้นที่ได้เป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าวคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติอนุมัติให้กองทัพเรือ จัดหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ ๒ ไปปฏิบัติงานพื้นที่อ่าวเอเดน ชายฝั่งโซมาเลียและพื้นที่ใกล้เคียง โดยตั้งกองบัญชาการหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดที่ราชอาณาจักรบาร์เรน ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังผสมทางเรือ(CMF- Combined Maritime Forces) การจัดกำลังของหน่วยเรือปราบปรามโจรสลัดประกอบด้วย เรือหลวงสิมิลัน เรือหลวงนราธิวาส เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ ๒ จำนวน ๒ เครื่อง และชุดปฏิบัติการพิเศษ จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ จำนวน ๒ ชุด รวมกำลังพลทั้งสิ้น ๓๖๘ นาย
สรุปผลการปฏิบัติงานของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ ๒
๑. ภารกิจ ป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธบริเวณอ่าวเอเดน ชายฝั่งโซมาเลียและพื้นที่ใกล้เคียง โดยปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือCMF เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งเสริมสร้างบทบาทและเกียรติภูมิไทยในเวทีสากล
๒. การปฏิบัติตามภารกิจในพื้นที่ปฏิบัติการ มปจ. ชุดที่ ๒ เริ่มปฏิบัติงานในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย ตั้งแต่ ๑๕ ส.ค.๕๔ - ๓ พ.ย.๕๔ รวมระยะเวลาในพื้นที่ปฏิบัติการทั้งสิ้น ๘๑ วัน ซึ่งมีการปฏิบัตืที่สำคัญประกอบด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการเสริมสร้างบทบาทและเกียรติภูมิไทยในเวทีสากลดังนี้
๒.๑ การป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด
- การให้การคุ้มครองเรือสินค้าไทยและนานาชาติ รวมทั้ง เรือประมงไทย
- การป้องกันและขัดขวางการกระทำอันเป็นโจรสลัด
- การให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยและการปฏิบัติทางด้านมนุษยธรรม
๒.๒ การเสริมสร้างบทบาทและเกียรติภูมิไทยในเวทีสากล
- การปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือนานาชาติ
- การเข้าเยี่ยมคำนับบุคคลสำคัญของประเทศต่างๆ
- การสร้างความสัมพันธ์กับนานาชาติและสร้างความภาคภูมิใจของคนไทยในต่างแดน
๓. ผลการปฏิบัติที่สำคัญ
๓.๑ การป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด
๓.๑.๑ คุ้มกันกระบวนคอนวอย (CONVOY ESCORT) เรือสินค้าไทยและนานาชาติ ในช่องทางแนะนำสำหรับการเดินเรือ (IRTC) โดยการจัดเรือคุ้มกันเดินทางผ่านอ่าวเอเดน จำนวน ๙ ครั้ง ให้
การคุ้มกันเรือทั้งหมดที่ลงทะเบียน จำนวน ๔๒ ลำ สัญชาติเรือ ๑๖ สัญชาติ ระวางขับน้ำรวมทั้งสิ้น ๑,๕๙๕,๑๕๕ ตัน ในจำนวนนี้แยกเป็นการคุ้มกันเรือสินค้าไทย ๕ ครั้ง
๓.๑.๒ คุ้มครองและช่วยเหลือเรือประมงไทย โดยการดำรงการติดต่อสื่อสารกับเรือประมงไทยชุด อ.ศิริชัยนาวา ที่ได้รับสัมปทานการทำประมงที่ประเทศเยเมน และเรือประมงชุดเรือพรานทะเลที่ได้รับสัมปทานการทำประมงชายฝั่งประเทศอิหร่าน รวมถึงเรือประมงที่ทำการประมงนอกชายฝั่งทะเลอาณาเขตหมู่เกาะซีเชลล์ และมหาสมุทรอินเดียนอกชายฝั่งโซมาเลีย
๓.๑.๓ สกัดกั้น และขัดขวางการปฏิบัติการของโจรสลัดที่เข้าจู่โจมเรือสินค้า MSC Namibia II เมื่อ ๒๓ ส.ค.๕๔ และขัดขวางโจรสลัดที่เข้าจู่โจมเรือสินค้า MV Burak A เมื่อ ๑๖ ต.ค.๕๔
๓.๑.๔ การให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยและการปฏิบัติทางด้านมนุษยธรรม แก่เรือ Whaler ที่ประสบภัยในพื้นที่อ่าวเอเดน เมื่อ ๔ ต.ค.๕๔
๓.๒ การเสริมสร้างบทบาทและเกียรติภูมิไทยในเวทีสากล
๓.๒.๑ ปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือ นานาชาติ โดยการจัดเรือลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบในช่องทางแนะนำสำหรับการเดินเรือ (IRTC- Internationally Recommended Transit Corridor) ใน
อ่าวเอเดน และพื้นที่ ที่มีการจู่โจมของโจรสลัด (POA- Pirate Operations Area) ให้การคุ้มกันเรือสินค้าที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน ๘๓๐ ลำ ระวางขับน้ำรวม ๓๐,๕๒๙,๕๑๒ ตัน ผลการปฏิบัติสามารถปฏิบัติการสกัดกั้น
โจรสลัดที่จะจู่โจมยึดเรือสินค้าร่วมกับกำลังเรือรบชาติต่างๆ เป็นประสิทธิผล ไม่มีเรือสินค้าถูกโจรสลัดยึดเรือได้ ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติการในพื้นที่ ๘๑ วัน
๓.๒.๒ การเยี่ยมชมเรือรบของชาติต่างๆและการเปิดให้เยี่ยมชมเรือใน นปจ. อาทิการแลกเปลี่ยนเยี่ยมชมเรือ ระหว่าง เรือหลวงนราธิวาส กับเรือของกองทัพเรืออินเดีย เมื่อ ๒๙ ก.ค.๕๔ เป็นต้น
๓.๒.๓ การเยี่ยมคำนับ ได้เข้าเยี่ยมคำนับบุคคลสำคัญอย่างเป็นทางการ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสร้างชื่อเสียง บทบาทและเกียรติภูมิของทหารเรือไทยในเวทีสากล โดยการเข้าเยี่ยมคำนับ เอกอัครราชทูต กงสุล และผู้บัญชาการทหารระดับสูง ของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ศรีลังกา อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาร์เรน โอมาน ซึ่งแต่ละประเทศได้ให้การต้อนรับและร่วมปรึกษาหารือ รวมทั้งการประชุมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ถึงแนวทางการปฏิบัติในการปราบปรามโจรสลัด
๓.๒.๔ การตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด รองผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เสนาธิการทหารเรือ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกำลังพล ของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด โดยได้ให้โอวาท ทักทาย สอบถามความเป็นอยู่ของกำลังพล และรับทราบปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด สร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล
๔. สรุปผลการปฏิบัติงานของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ ๒
การส่งกำลังเข้าร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือของนานาชาติในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกซึ่งความมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา การเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกองกำลังนานาชาติ ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้ มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ไทยเป็นสมาชิก อันจะส่งเสริมบทบาทของไทยในเวทีโลก ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทยเป็นส่วนรวม สมความมุ่งหมายของรัฐบาล และบรรลุภารกิจ ที่กองทัพเรือมอบหมายทุกประการ
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธานในพิธีฯ ความเป็นมา
สถานการณ์ในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย รวมทั้งบริเวณใกล้เคียง มีสถิติการปล้นยึดเรือสินค้าและเรือประมงในพื้นที่ ที่มีความรุนแรงของสถานการณ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการเดินเรือ และมีแนวโน้มที่โจรสลัดจะขยายพื้นที่ปฏิบัติการมากขึ้น กับมีขีดความสามารถดำรงความต่อเนื่องในการปฏิบัติในพื้นที่ได้เป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าวคณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติอนุมัติให้กองทัพเรือ จัดหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ ๒ ไปปฏิบัติงานพื้นที่อ่าวเอเดน ชายฝั่งโซมาเลียและพื้นที่ใกล้เคียง โดยตั้งกองบัญชาการหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดที่ราชอาณาจักรบาร์เรน ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังผสมทางเรือ(CMF- Combined Maritime Forces) การจัดกำลังของหน่วยเรือปราบปรามโจรสลัดประกอบด้วย เรือหลวงสิมิลัน เรือหลวงนราธิวาส เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ ๒ จำนวน ๒ เครื่อง และชุดปฏิบัติการพิเศษ จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ จำนวน ๒ ชุด รวมกำลังพลทั้งสิ้น ๓๖๘ นาย
สรุปผลการปฏิบัติงานของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ ๒
๑. ภารกิจ ป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธบริเวณอ่าวเอเดน ชายฝั่งโซมาเลียและพื้นที่ใกล้เคียง โดยปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือCMF เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งเสริมสร้างบทบาทและเกียรติภูมิไทยในเวทีสากล
๒. การปฏิบัติตามภารกิจในพื้นที่ปฏิบัติการ มปจ. ชุดที่ ๒ เริ่มปฏิบัติงานในพื้นที่อ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย ตั้งแต่ ๑๕ ส.ค.๕๔ - ๓ พ.ย.๕๔ รวมระยะเวลาในพื้นที่ปฏิบัติการทั้งสิ้น ๘๑ วัน ซึ่งมีการปฏิบัตืที่สำคัญประกอบด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการเสริมสร้างบทบาทและเกียรติภูมิไทยในเวทีสากลดังนี้
๒.๑ การป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด
- การให้การคุ้มครองเรือสินค้าไทยและนานาชาติ รวมทั้ง เรือประมงไทย
- การป้องกันและขัดขวางการกระทำอันเป็นโจรสลัด
- การให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยและการปฏิบัติทางด้านมนุษยธรรม
๒.๒ การเสริมสร้างบทบาทและเกียรติภูมิไทยในเวทีสากล
- การปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือนานาชาติ
- การเข้าเยี่ยมคำนับบุคคลสำคัญของประเทศต่างๆ
- การสร้างความสัมพันธ์กับนานาชาติและสร้างความภาคภูมิใจของคนไทยในต่างแดน
๓. ผลการปฏิบัติที่สำคัญ
๓.๑ การป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด
๓.๑.๑ คุ้มกันกระบวนคอนวอย (CONVOY ESCORT) เรือสินค้าไทยและนานาชาติ ในช่องทางแนะนำสำหรับการเดินเรือ (IRTC) โดยการจัดเรือคุ้มกันเดินทางผ่านอ่าวเอเดน จำนวน ๙ ครั้ง ให้
การคุ้มกันเรือทั้งหมดที่ลงทะเบียน จำนวน ๔๒ ลำ สัญชาติเรือ ๑๖ สัญชาติ ระวางขับน้ำรวมทั้งสิ้น ๑,๕๙๕,๑๕๕ ตัน ในจำนวนนี้แยกเป็นการคุ้มกันเรือสินค้าไทย ๕ ครั้ง
๓.๑.๒ คุ้มครองและช่วยเหลือเรือประมงไทย โดยการดำรงการติดต่อสื่อสารกับเรือประมงไทยชุด อ.ศิริชัยนาวา ที่ได้รับสัมปทานการทำประมงที่ประเทศเยเมน และเรือประมงชุดเรือพรานทะเลที่ได้รับสัมปทานการทำประมงชายฝั่งประเทศอิหร่าน รวมถึงเรือประมงที่ทำการประมงนอกชายฝั่งทะเลอาณาเขตหมู่เกาะซีเชลล์ และมหาสมุทรอินเดียนอกชายฝั่งโซมาเลีย
๓.๑.๓ สกัดกั้น และขัดขวางการปฏิบัติการของโจรสลัดที่เข้าจู่โจมเรือสินค้า MSC Namibia II เมื่อ ๒๓ ส.ค.๕๔ และขัดขวางโจรสลัดที่เข้าจู่โจมเรือสินค้า MV Burak A เมื่อ ๑๖ ต.ค.๕๔
๓.๑.๔ การให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยและการปฏิบัติทางด้านมนุษยธรรม แก่เรือ Whaler ที่ประสบภัยในพื้นที่อ่าวเอเดน เมื่อ ๔ ต.ค.๕๔
๓.๒ การเสริมสร้างบทบาทและเกียรติภูมิไทยในเวทีสากล
๓.๒.๑ ปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือ นานาชาติ โดยการจัดเรือลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบในช่องทางแนะนำสำหรับการเดินเรือ (IRTC- Internationally Recommended Transit Corridor) ใน
อ่าวเอเดน และพื้นที่ ที่มีการจู่โจมของโจรสลัด (POA- Pirate Operations Area) ให้การคุ้มกันเรือสินค้าที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน ๘๓๐ ลำ ระวางขับน้ำรวม ๓๐,๕๒๙,๕๑๒ ตัน ผลการปฏิบัติสามารถปฏิบัติการสกัดกั้น
โจรสลัดที่จะจู่โจมยึดเรือสินค้าร่วมกับกำลังเรือรบชาติต่างๆ เป็นประสิทธิผล ไม่มีเรือสินค้าถูกโจรสลัดยึดเรือได้ ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติการในพื้นที่ ๘๑ วัน
๓.๒.๒ การเยี่ยมชมเรือรบของชาติต่างๆและการเปิดให้เยี่ยมชมเรือใน นปจ. อาทิการแลกเปลี่ยนเยี่ยมชมเรือ ระหว่าง เรือหลวงนราธิวาส กับเรือของกองทัพเรืออินเดีย เมื่อ ๒๙ ก.ค.๕๔ เป็นต้น
๓.๒.๓ การเยี่ยมคำนับ ได้เข้าเยี่ยมคำนับบุคคลสำคัญอย่างเป็นทางการ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสร้างชื่อเสียง บทบาทและเกียรติภูมิของทหารเรือไทยในเวทีสากล โดยการเข้าเยี่ยมคำนับ เอกอัครราชทูต กงสุล และผู้บัญชาการทหารระดับสูง ของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ศรีลังกา อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาร์เรน โอมาน ซึ่งแต่ละประเทศได้ให้การต้อนรับและร่วมปรึกษาหารือ รวมทั้งการประชุมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ถึงแนวทางการปฏิบัติในการปราบปรามโจรสลัด
๓.๒.๔ การตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด รองผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เสนาธิการทหารเรือ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกำลังพล ของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด โดยได้ให้โอวาท ทักทาย สอบถามความเป็นอยู่ของกำลังพล และรับทราบปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด สร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล
๔. สรุปผลการปฏิบัติงานของหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ ๒
การส่งกำลังเข้าร่วมกับกองกำลังผสมทางเรือของนานาชาติในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกซึ่งความมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา การเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกองกำลังนานาชาติ ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้ มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ไทยเป็นสมาชิก อันจะส่งเสริมบทบาทของไทยในเวทีโลก ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทยเป็นส่วนรวม สมความมุ่งหมายของรัฐบาล และบรรลุภารกิจ ที่กองทัพเรือมอบหมายทุกประการ
Comments