ตั้งแต่เกิดปัญหาอุทกภัยในประเทศไทย ทำให้หลายจังหวัดของประเทศได้รับความเสียหายอย่างหนัก กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ศบภ.ทร.) ได้จัดทำกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และวัสดุอุปกรณ์เข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยตามพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดสถานการณ์อุทกภัย โดยได้สนับสนุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยในการสนับสนุนกำลังพลบรรจุ ถุงยังชีพพระราชทานเพื่อลำเลียงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยและนำถุงยังชีพในส่วนของกองทัพเรือ ไปแจกจ่ายบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ของประเทศ
และตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยโดยใช้เรือเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล ในห้วงที่มีอิทธิพลการหนุนของน้ำทะเลมีน้อย ด้วยการใช้เรือประเภทต่างๆ ทำการเดินเครื่องเพื่อผลักดันน้ำตั้งแต่อำเภอเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นต้นมาจนถึง ปากแม่น้ำเจ้าพระยา และให้กองทัพเรือเป็นหน่วยควบคุมการปฏิบัติ โดยกองทัพเรือรับผิดชอบการปฏิบัติที่บริเวณสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ (สะพานพุทธ) และบริเวณคลองลัดโพธิ์ ปัจจุบันใช้เรือเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล ได้เสร็จสิ้นการปฏิบัติแล้วใน ๒ ตุลาคม ๒๕๕๔ แต่ยังคงการปฏิบัติในการใช้เรือเร่งผลักดันน้ำบริเวณทางด้านใต้ของคลองลัดโพธิ์ ประกอบด้วย เรือหลวงแสมสาร เรือของการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเรือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริเวณคลองสรรพสามิต ประกอบด้วย เรือหลวง กลึงบาดาล และเรือหลวงมารวิชัย โดยจะปฏิบัติถึง ๙ ตุลาคม ๒๕๕๔
หลังจากจบภารกิจนี้แล้ว กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับกองทัพเรือ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้ทำการประเมินผลอีกครั้ง
สำหรับแนวคิดในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นั้น กองทัพเรือ ได้สั่งการให้จัดหน่วยเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยทางบก กองทัพเรือ (ชุดเคลื่อนที่เร็ว) ประกอบด้วย ฮ.ทร. เรือจู่โจมลำน้ำเครื่องติดท้าย เรือยาง เจ็ทสกี และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ถุงยังชีพพร้อมน้ำดื่ม เพื่อให้สามารถช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็ว
ข้อมูล ศบภ.ทร.
๔ ต.ค.๕๔
และตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยโดยใช้เรือเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล ในห้วงที่มีอิทธิพลการหนุนของน้ำทะเลมีน้อย ด้วยการใช้เรือประเภทต่างๆ ทำการเดินเครื่องเพื่อผลักดันน้ำตั้งแต่อำเภอเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นต้นมาจนถึง ปากแม่น้ำเจ้าพระยา และให้กองทัพเรือเป็นหน่วยควบคุมการปฏิบัติ โดยกองทัพเรือรับผิดชอบการปฏิบัติที่บริเวณสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ (สะพานพุทธ) และบริเวณคลองลัดโพธิ์ ปัจจุบันใช้เรือเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเล ได้เสร็จสิ้นการปฏิบัติแล้วใน ๒ ตุลาคม ๒๕๕๔ แต่ยังคงการปฏิบัติในการใช้เรือเร่งผลักดันน้ำบริเวณทางด้านใต้ของคลองลัดโพธิ์ ประกอบด้วย เรือหลวงแสมสาร เรือของการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเรือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริเวณคลองสรรพสามิต ประกอบด้วย เรือหลวง กลึงบาดาล และเรือหลวงมารวิชัย โดยจะปฏิบัติถึง ๙ ตุลาคม ๒๕๕๔
หลังจากจบภารกิจนี้แล้ว กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับกองทัพเรือ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้ทำการประเมินผลอีกครั้ง
สำหรับแนวคิดในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นั้น กองทัพเรือ ได้สั่งการให้จัดหน่วยเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยทางบก กองทัพเรือ (ชุดเคลื่อนที่เร็ว) ประกอบด้วย ฮ.ทร. เรือจู่โจมลำน้ำเครื่องติดท้าย เรือยาง เจ็ทสกี และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ถุงยังชีพพร้อมน้ำดื่ม เพื่อให้สามารถช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็ว
ข้อมูล ศบภ.ทร.
๔ ต.ค.๕๔
Comments