พลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พันจ่าโท วิโรจน์ ทินสุวรรณ์ สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ที่เสียชีวิตจากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เวลา ๑๗๐๐ ณ วัดนาสีทอง ตำบลเขาพระ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
จากเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ กองทัพเรือได้สูญเสียกำลังพล ๑ นาย คือ พันจ่าโท วิโรจน์ ทินสุวรรณ์ โดยกองทัพเรือ ได้พิจารณาสิทธิกำลังพลและการสงเคราะห์ให้แก่ทายาทอย่างดีที่สุดคือ
- เงินเดือน ป.๒ ชั้น ๑๒ เป็นเงิน ๑๑,๐๗๐.-บาท
- เงินช่วยพิเศษ ๓ เดือน เป็นเงิน ๓๓,๒๑๐.-บาท
- เงินค้างจ่าย จำนวน ๒,๒๐๔.-บาท
- สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐.-บาท
- เงินประกันกลุ่มกองทัพเรือ เป็นเงิน ๖๐๐,๐๐๐.-บาท
- โครงการเยียวยาของผู้ปฏิบัติราชการชายแดนในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐.-บาท
- องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เป็นเงิน ๗,๐๐๐.-บาท
- มูลนิธิสายใจไทย เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐.-บาท
- เงินค่าทดแทนคณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบค่าทดแทนและการช่วยเหลือ
เป็นเงิน ๒๗๖,๗๕๐.-บาท
- เงินค่าจัดการศพชั้นต้นจาก บ.ท.ช.เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐.-บาท
- เงินสงเคราะห์เพื่อการสู้รบจากกรมสวัสดิการทหารเรือ จำนวน ๑๒๐,๐๐๐.-บาท
- เงินบำเหน็จตกทอด (ก่อนปูนบำเหน็จ) จำนวน ๑๓๙,๘๑๔.-บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๗๗๘,๙๗๘.-บาท นอกจากนี้ ยังมีบำเหน็จตกทอดเพิ่ม (หลังปูนบำเหน็จ ๗ ขั้น) จำนวน ๔๕,๗๒๑.-บาท และเงินบำนาญพิเศษรายเดือน ๑๑,๗๕๒.-บาท รวมทั้งได้รับการเลื่อนยศเป็นนาวาตรี
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เดียวกัน ๓ นาย ได้แก่ จ่าเอก นันทวัฒน์ เครือวัลย์ จ่าเอก ไชยยงค์ โทปัญจ่า และจ่าเอก โสรส ฤทธิ์กำลัง ส่งตัวไปเข้ารับการรักษาพยาบาลต่อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ส่วนจ่าเอก พงษ์ศักดิ์ จันทะพรม ส่งตัวไปเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา
ข้อมูล ข่าว ทร.
๑๒ ก.พ.๕๑
จากเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ กองทัพเรือได้สูญเสียกำลังพล ๑ นาย คือ พันจ่าโท วิโรจน์ ทินสุวรรณ์ โดยกองทัพเรือ ได้พิจารณาสิทธิกำลังพลและการสงเคราะห์ให้แก่ทายาทอย่างดีที่สุดคือ
- เงินเดือน ป.๒ ชั้น ๑๒ เป็นเงิน ๑๑,๐๗๐.-บาท
- เงินช่วยพิเศษ ๓ เดือน เป็นเงิน ๓๓,๒๑๐.-บาท
- เงินค้างจ่าย จำนวน ๒,๒๐๔.-บาท
- สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐.-บาท
- เงินประกันกลุ่มกองทัพเรือ เป็นเงิน ๖๐๐,๐๐๐.-บาท
- โครงการเยียวยาของผู้ปฏิบัติราชการชายแดนในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐.-บาท
- องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เป็นเงิน ๗,๐๐๐.-บาท
- มูลนิธิสายใจไทย เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐.-บาท
- เงินค่าทดแทนคณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบค่าทดแทนและการช่วยเหลือ
เป็นเงิน ๒๗๖,๗๕๐.-บาท
- เงินค่าจัดการศพชั้นต้นจาก บ.ท.ช.เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐.-บาท
- เงินสงเคราะห์เพื่อการสู้รบจากกรมสวัสดิการทหารเรือ จำนวน ๑๒๐,๐๐๐.-บาท
- เงินบำเหน็จตกทอด (ก่อนปูนบำเหน็จ) จำนวน ๑๓๙,๘๑๔.-บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๗๗๘,๙๗๘.-บาท นอกจากนี้ ยังมีบำเหน็จตกทอดเพิ่ม (หลังปูนบำเหน็จ ๗ ขั้น) จำนวน ๔๕,๗๒๑.-บาท และเงินบำนาญพิเศษรายเดือน ๑๑,๗๕๒.-บาท รวมทั้งได้รับการเลื่อนยศเป็นนาวาตรี
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เดียวกัน ๓ นาย ได้แก่ จ่าเอก นันทวัฒน์ เครือวัลย์ จ่าเอก ไชยยงค์ โทปัญจ่า และจ่าเอก โสรส ฤทธิ์กำลัง ส่งตัวไปเข้ารับการรักษาพยาบาลต่อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ส่วนจ่าเอก พงษ์ศักดิ์ จันทะพรม ส่งตัวไปเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา
ข้อมูล ข่าว ทร.
๑๒ ก.พ.๕๑
Comments