ในวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๑๕ น. พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานประกอบพิธีสดุดีวีรชนกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๖๑ ณ อนุสรณ์เรือหลวงธนบุรี โรงเรียนนายเรือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของวีรบุรุษทหารเรือไทยที่ได้เสียสละชีวิตและเลือดเนื้อในการปกป้องและรักษาไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตยของชาติ
โดยในช่วงเช้า เวลา ๐๘.๓๐ น. ประกอบพิธีวางพวงมาลาของผู้แทนหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง สมาคมและชมรมต่าง ๆ จากนั้นเวลา ๑๐.๑๕ น. ประธานในพิธีฯ ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล พิธีวางพวงมาลา และกล่าวสดุดีวีรชนกองทัพเรือ
พิธีสดุดีวีรชนและบำเพ็ญกุศลแด่วีรชนของกองทัพเรือ เป็นพิธีสำคัญที่กองทัพเรือจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ทหารเรือทุกคนได้แสดงความเคารพและระลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของวีรชนทหารเรือที่ได้ทำการรบอย่างกล้าหาญและเสียสละชีวิต เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติจากศัตรูที่รุกรานแผ่นดิน กับเหตุการณ์สำคัญที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของทหารเรือ คือ เหตุการณ์กรณีพิพาทอินโดจีน เมื่อฝรั่งเศสได้ส่งกำลังทางเรือจำนวน ๗ ลำ รุกล้ำน่านน้ำไทยบริเวณเกาะช้าง จังหวัดตราด เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๔ วีรชนผู้กล้าหาญของเราได้ทำการรบอย่างสุดความสามารถ ทำให้กองเรือรบของฝรั่งเศสได้รับความเสียหาย และในที่สุดต้องล่าถอยออกไปจากน่านน้ำไทย ในครั้งนั้น เรือหลวงธนบุรี เรือหลวงชลบุรี และเรือหลวงสงขลา ได้รับความเสียหายและต้องสูญเสียนายทหารและทหารประจำเรือ รวมทั้งสิ้น ๓๖ นาย
นอกจากนี้ บรรพบุรุษทหารเรือของเรายังได้พลีชีพในการรบครั้งสำคัญอีกหลายครั้ง เพื่อดำรงเกียรติภูมิของชาติและราชนาวีไทย ได้แก่ การรบที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๒ เรือมกุฎราชกุมาร พร้อมหมู่ปืนที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าและ ป้อมผีเสื้อสมุทร ได้ยิงสกัดกั้นการรุกรานของเรือรบฝรั่งเศส จำนวน ๒ ลำ อย่างสุดความสามารถ จนสูญเสียทหารเรือไป จำนวน ๑๒ นาย เหตุการณ์ในสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๘๘ เรือหลวงสมุยได้ถูกยิงด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำฝ่ายสัมพันธมิตรจนจมลงพร้อมทหารประจำเรือ จำนวน ๓๑ นาย บริเวณนอกฝั่งรัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย และในช่วงสงครามเกาหลี กองทัพเรือได้สูญเสียเรือหลวงประแสลำแรก พร้อมกับทหารประจำเรือ จำนวน ๒ นาย ขณะปฏิบัติภารกิจในการระดมยิงฝั่งร่วมกับกำลังทางเรือของสหประชาชาติ และยังมียุทธการสำคัญที่กองทัพเรือได้ส่งกำลังพลเข้าปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเหล่าทัพเพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ตลอดจนการปกป้องและรักษาอธิปไตยตามแนวชายแดน ได้แก่ การปราบปรามผู้ก่อการร้ายตามแผนยุทธการสามชัย จังหวัดเพชรบูรณ์ วีรกรรมแห่งดอยผาจิ จังหวัดเชียงราย วีรกรรมดอนน้อย และวีรกรรมดอนสังคี จังหวัดหนองคาย รวมทั้งการเข้ายึดค่ายกรุงชิงที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปัจจุบัน กองทัพเรือยังคงส่งกำลังพลเข้าร่วมแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวนั้น แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ แต่กำลังพลเหล่านั้นยอมเสียสละชีวิตของตนเอง เพื่อปกป้องชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และนำสันติสุขกลับคืนมา วีรกรรมอันกล้าหาญเหล่านั้น นับเป็นเกียรติภูมิของเหล่าผู้วายชนม์ที่ได้ทำหน้าที่ของทหารเรือไทยอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของความรักชาติอย่างแท้จริง
โดยในช่วงเช้า เวลา ๐๘.๓๐ น. ประกอบพิธีวางพวงมาลาของผู้แทนหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง สมาคมและชมรมต่าง ๆ จากนั้นเวลา ๑๐.๑๕ น. ประธานในพิธีฯ ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล พิธีวางพวงมาลา และกล่าวสดุดีวีรชนกองทัพเรือ
พิธีสดุดีวีรชนและบำเพ็ญกุศลแด่วีรชนของกองทัพเรือ เป็นพิธีสำคัญที่กองทัพเรือจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ทหารเรือทุกคนได้แสดงความเคารพและระลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของวีรชนทหารเรือที่ได้ทำการรบอย่างกล้าหาญและเสียสละชีวิต เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติจากศัตรูที่รุกรานแผ่นดิน กับเหตุการณ์สำคัญที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของทหารเรือ คือ เหตุการณ์กรณีพิพาทอินโดจีน เมื่อฝรั่งเศสได้ส่งกำลังทางเรือจำนวน ๗ ลำ รุกล้ำน่านน้ำไทยบริเวณเกาะช้าง จังหวัดตราด เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๘๔ วีรชนผู้กล้าหาญของเราได้ทำการรบอย่างสุดความสามารถ ทำให้กองเรือรบของฝรั่งเศสได้รับความเสียหาย และในที่สุดต้องล่าถอยออกไปจากน่านน้ำไทย ในครั้งนั้น เรือหลวงธนบุรี เรือหลวงชลบุรี และเรือหลวงสงขลา ได้รับความเสียหายและต้องสูญเสียนายทหารและทหารประจำเรือ รวมทั้งสิ้น ๓๖ นาย
นอกจากนี้ บรรพบุรุษทหารเรือของเรายังได้พลีชีพในการรบครั้งสำคัญอีกหลายครั้ง เพื่อดำรงเกียรติภูมิของชาติและราชนาวีไทย ได้แก่ การรบที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๒ เรือมกุฎราชกุมาร พร้อมหมู่ปืนที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าและ ป้อมผีเสื้อสมุทร ได้ยิงสกัดกั้นการรุกรานของเรือรบฝรั่งเศส จำนวน ๒ ลำ อย่างสุดความสามารถ จนสูญเสียทหารเรือไป จำนวน ๑๒ นาย เหตุการณ์ในสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๘๘ เรือหลวงสมุยได้ถูกยิงด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำฝ่ายสัมพันธมิตรจนจมลงพร้อมทหารประจำเรือ จำนวน ๓๑ นาย บริเวณนอกฝั่งรัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย และในช่วงสงครามเกาหลี กองทัพเรือได้สูญเสียเรือหลวงประแสลำแรก พร้อมกับทหารประจำเรือ จำนวน ๒ นาย ขณะปฏิบัติภารกิจในการระดมยิงฝั่งร่วมกับกำลังทางเรือของสหประชาชาติ และยังมียุทธการสำคัญที่กองทัพเรือได้ส่งกำลังพลเข้าปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับเหล่าทัพเพื่อรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ตลอดจนการปกป้องและรักษาอธิปไตยตามแนวชายแดน ได้แก่ การปราบปรามผู้ก่อการร้ายตามแผนยุทธการสามชัย จังหวัดเพชรบูรณ์ วีรกรรมแห่งดอยผาจิ จังหวัดเชียงราย วีรกรรมดอนน้อย และวีรกรรมดอนสังคี จังหวัดหนองคาย รวมทั้งการเข้ายึดค่ายกรุงชิงที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปัจจุบัน กองทัพเรือยังคงส่งกำลังพลเข้าร่วมแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวนั้น แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ แต่กำลังพลเหล่านั้นยอมเสียสละชีวิตของตนเอง เพื่อปกป้องชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และนำสันติสุขกลับคืนมา วีรกรรมอันกล้าหาญเหล่านั้น นับเป็นเกียรติภูมิของเหล่าผู้วายชนม์ที่ได้ทำหน้าที่ของทหารเรือไทยอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของความรักชาติอย่างแท้จริง
Comments