Skip to main content

ผบ.ทร.ตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเลในการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๕๘

พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเลในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (HA/DR) และการฝึกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล (SAR) เมื่อวันที่ ๒๘ เม.ย.๕๘ ณ วัดสมุทรธาราม และหาดละไม เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี การฝึกกองทัพเรือเป็นการฝึกประจำปีที่สำคัญ โดยมี พลเรือเอก พจนา เผือกผ่อง รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้อำนวยการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๘ และกรมยุทธการทหารเรือเป็นหน่วยรับผิดชอบการฝึก โดยเป็นการฝึกในลักษณะบูรณาการด้วยการนำการปฏิบัติการทางทหาร การปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆ ของส่วนกำลังรบ การปฏิบัติการและการสนับสนุนของส่วนอื่นๆ มาทำการฝึกภายใต้สถานการณ์เดียวกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยมีหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ ทั้งจากส่วนบัญชาการ ส่วนกำลังรบ ส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษา เข้าร่วมการฝึก รวม ๒๑ หน่วย ทำการฝึกระหว่างวันที่ ๒๖ ก.พ.-๑๕ พ.ค.๕๘ ณ พื้นที่ฝึกบริเวณที่ตั้งหน่วย พื้นที่ปฏิบัติการ และพื้นที่ฝึกของกองทัพเรือ แบ่งการฝึกเป็น ๓ ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นเตรียมการฝึก, ขั้นการฝึก ประกอบด้วยการอบรมในห้องเรียน การฝึกปัญหาที่บังคับการและการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล และขั้นการสัมมนาสรุปผลการฝึก โดยห้วงระยะเวลาการฝึกที่สำคัญ คือ การฝึกปัญหาที่บังคับการ ทำการฝึกระหว่างวันที่ ๙-๒๗ มี.ค.๕๘ การฝึกด้วยเครื่องจำลองยุทธ์ ทำการฝึกระหว่างวันที่ ๒๐-๒๔ เม.ย.๕๘ และการฝึกภาคสนาม/ทะเล ทำการฝึกระหว่างวันที่ ๒๗ เม.ย.-๓ พ.ค.๕๘ สำหรับการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล ในครั้งนี้ ประกอบด้วย การฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (HA/DR) และการฝึกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล (SAR) โดยในส่วนของการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (HA/DR) มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกการบัญชาการของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ Incident Command Center บนเรือธง โดยเป็นการฝึกในภัยพิบัติระดับ ๓ กรณีภัยจากพายุขนาดใหญ่ เน้นการประเมินและวิเคราะห์ภัยพิบัติ การฝึกศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ การทดสอบขีดความสามารถด้าน HA/DR ของหน่วยยุทธวิธี โดยสมมติสถานการณ์ว่า ได้เกิดภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ ในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ของประเทศ เป็นผลทำให้มีโคลนถล่ม อาคารทรุดตัว บ้านเรือนเสียหายจากพายุ เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ระบบการติดต่อสื่อสารใช้การไม่ได้เป็นบริเวณกว้าง มีโรคระบาด ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก รัฐบาลประกาศยกระดับภัยพิบัติเป็นระดับ ๓ มีการ จัดตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันภัยแห่งชาติขึ้น เพื่อเป็นศูนย์อำนวยการสนับสนุนจากส่วนกลาง ส่วนกองทัพไทยได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทยส่วนหน้าในพื้นที่จังหวัดชุมพร สำหรับพื้นที่ที่มีความเสียหายมากที่สุดและยังไม่มีหน่วยงานจากส่วนกลางเข้าไปในพื้นที่ได้ คือ เกาะสมุย และเกาะพงัน นั้น รัฐบาลได้มอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์เข้าควบคุมพื้นที่ทั้ง ๒ เกาะ ในภารกิจการค้นหาและช่วยชีวิต การบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งมีขั้นตอนการปฏิบัติ คือ การรับแจ้งและระบบการรายงานสถานการณ์, การวางแผนขั้นต้น, การค้นหา/เข้าสู่พื้นที่ Locate, การเข้าถึงผู้ประสบภัยในพื้นที่เกิดเหตุ, การช่วยเหลือพยาบาล การเคลื่อนย้าย Stabilize และการนำส่งพื้นที่รองรับ/ส่งต่อสายแพทย์หรือพื้นที่พยาบาลโรงพยาบาลสนาม ด้านการฝึกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล เป็นการฝึกเพื่อเตรียมความพร้อมของหน่วยกำลังในทัพเรือภาคที่ ๒ โดยสมมติสถานการณ์และขั้นตอนการปฏิบัติว่า ทัพเรือภาคที่ ๒ ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุประมง จังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า มีเรือประมงประสบเหตุอับปางบริเวณทางด้านตะวันออกของเกาะสมุย โดยมีกำลังที่เข้าร่วมการฝึกประกอบด้วย เรือตรวจการณ์ปืน จำนวน ๑ ลำ (เป็นเรือประสบภัย), เรือหลวงกระบี่ (เรือควบคุม), เรือยาง SAFETY พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ, เฮลิคอปเตอร์แบบซูเปอร์ลิงซ์, เรือจากหน่วยอื่นๆ ในพื้นที่ และรถพยาบาลจากมูลนิธิในพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ ข้อมูล สลก.ทร. ๒๘ เม.ย.๕๘

Comments

Popular posts from this blog

กง.ทร.พัฒนาระบบ E-mobile Slip ใช้ตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนผ่านสมาร์ทโฟน

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการกองทัพเรือ กองทัพเรือ โดยกรมการเงินทหารเรือ ได้พัฒนาระบบ E-mobile Slip เพื่อให้ข้าราชการกองทัพเรือสามารถตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนได้ด้วยตนเองผ่านทางระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Smart Phone) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ เข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานครั้งแรก เพื่อตั้งค่ารหัสผ่านในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือที่ http://info.navy.mi.th/finance แบนเนอร์ “สลิปเงินเดือน” หลังเข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานแล้ว โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Android สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมผ่าน Play Store โดยค้นหาคำว่า “e-slip” และติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ iOS ให้เปิด Browser และเข้าเว็บไซต์ http://www.finance.navy.mi.th/mobile_https หรือด้วยการสแกนผ่านบาร์โค้ดในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือ จากนั้นจึงเข้าใช้งานด้วยรหัสผู้ใช้งานเป็นเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ ข้อมูล กง.ทร. ๒๘ ก.ย.๕๙

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า “พฤฒเวชโฮมแคร์” ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ โดยทีมงานคุณภาพมาตรฐาน เพื่อความสุขสบายของคนที่คุณรัก ภายในบรรยากาศที่อบอุ่นเสมือนบ้าน รับผู้สูงอายุชาย – หญิง อายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป            นอกจากนั้นยังจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ตามสภาพร่างกาย และความเหมาะสมของผู้เข้ารับการบริการ เช่น การทำบุญตักบาตร การสวดมนต์ การสนทนา โดยใช้หลักจิตวิทยาเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง การออกกำลังกาย กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการแพทย์ตรวจเยี่ยม ๒ ครั้งต่อเดือน แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูตรวจเยี่ยม ๑ ครั้งต่อเดือน พยาบาลวิชาชีพเยี่ยมประเมิน ๔ ครั้งต่อเดือน ผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโลเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๖ ๑๖๑๕ ๒๖๕๒ และ ๐๘ ๖๓๘๒ ๗๖๙๙                                                                         ข้อมูล รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ

กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวีให้บริการจัดการศพแบบครบวงจร

ฌาปนสถานกองทัพเรือ วัดเครือวัลย์วรวิหาร ให้บริการจัดการศพแบบครบวงจร โดยให้คำแนะนำในการแจ้งเสียชีวิตและจัดการศพ, ติดต่อประสานงานกับการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี, จัดหาหีบศพพร้อมรถบริการรับ-ส่งศพ, จัดหาดอกไม้ประดับหน้าศพและพวงหรีด, จัดหาเครื่องไทยธรรมพร้อมดอกไม้ถวายพระ, จัดหาอาหารและเครื่องดื่ม, จัดหาดอกไม้จันทน์พร้อมช่อเชิญประธาน และติดต่อแนะนำสถานที่ในการลอยอังคาร สอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๖๕ ๑๐๑๓, ๐ ๒๔๗๕ ๕๑๖๒, ๐ ๒๔๗๕ ๓๒๑๙ ข้อมูล กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี ๑๔ พ.ค.๕๘