Skip to main content

ผบ.ทร.ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาครบ ๑๒๘ ปีกระทรวงกลาโหม

พลเรือเอก ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่กองทัพเรือ ร่วมเป็นเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ครบ ๑๒๘ ปี ร่วมกับผู้บัญชาการทหารเรือสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เมื่อวันที่ ๘ เม.ย.๕๘ ณ ห้องสุรศักดิ์มนตรี ในศาลาว่าการกลาโหม โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน กิจการทหารของชาติไทยนับได้ว่าก่อกําเนิดมาพร้อมๆ กับกําเนิดชาติไทย เท่าที่ศึกษาค้นพบได้วิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา และพระราชอาณาจักรสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยลําดับ สืบมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช ทรงพิจารณาเห็นว่า การป้องกันประเทศและดํารงไว้ซึ่งอิสรภาพ ตลอดจนบูรณภาพแห่งชาติไทยให้สถิตสถาพรย่อมขึ้นอยู่กับกําลังทหารที่จัดระบบให้ทัดเทียมกับอารยประเทศที่เจริญ จึงโปรดเกล้าฯ ให้รวมทหารบก ทหารเรือ เข้าด้วยกัน ภายใต้การบังคับบัญชาของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร คือ สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศฯ โดยตราพระราชบัญญัติจัดตั้งกรมยุทธนาธิการขึ้นเมื่อวันที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๓๐ มีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชทรงดํารงตําแหน่งเสนาบดี กิจการทหารในยุคนี้ได้มีการเร่งรัดปรับปรุงให้ทันสมัยตามแบบอย่างอารยประเทศ ต่อมาได้ตราพระราชบัญญัติยกฐานะกรมยุทธนาธิการเป็นกระทรวงยุทธนาธิการ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๓๓ มีทหารบก ทหารเรืออยู่ในบังคับบัญชา จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เปลี่ยนกระทรวงยุทธนาธิการเป็นกระทรวงกลาโหม มีอํานาจปกครองบังคับบัญชาเฉพาะทหารบกฝ่ายเดียว ส่วนทหารเรือนั้นได้แยกออกไปตั้งเป็นกระทรวงทหารเรือเป็นเอกเทศ ในระยะนั้นกระทรวงกลาโหม (ทหารบก) ได้จัดอัตรากําลังเป็น ๓ กองทัพ มีกําลังรบหลัก ๑๐ กองพล ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก และส่งผลกระทบถึงประเทศไทยด้วย (หลังสงครามโลกครั้งที่ ๑) ได้ปรับลดกําลังทหารบกเหลือ ๒ กองทัพน้อย มีกําลังรบหลัก ๒ กองพล และได้ยุบกระทรวงทหารเรือมารวมเข้ากับกระทรวงกลาโหม เรียกชื่อว่ากระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๗๔ อีกครั้งหนึ่งสืบมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ต่อมาเมื่อวันที่ ๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๘๐ ได้ปรับปรุงการทหารเพิ่มเติม ยกฐานะกรมทหารอากาศขึ้นเป็นกองทัพอากาศ ดังนั้น กิจการทหารไทยจึงมีทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศเป็นส่วนราชการขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้บังคับบัญชา การกําหนดให้วันที่ ๘ เมษายน ของทุกปีเป็นวันระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๘๕ รัฐบาลภายใต้การนําของ ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูล สงคราม นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จัดให้มีวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนาของหน่วยราชการต่างๆ ขึ้น อาทิ วันกองทัพบกตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคม วันกองทัพเรือตรงกับวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน และวันกองทัพอากาศตรงกับวันที่ ๒๗ มีนาคม และประกาศให้วันที่ ๘ เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ออกประกาศการจัดอัตรากําลังทหารและตั้งกรมยุทธนาธิการ และเป็นวันก่อกําเนิดกิจการทหารไทยตามอัตรากําลังแบบใหม่และมีความเจริญก้าวหน้าติดต่อกันมา เป็นวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม และยึดถือต่อมาจนถึงปัจจุบัน ข้อมูล กพร.ทร. ๙ เม.ย.๕๘

Comments

Popular posts from this blog

กง.ทร.พัฒนาระบบ E-mobile Slip ใช้ตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนผ่านสมาร์ทโฟน

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการกองทัพเรือ กองทัพเรือ โดยกรมการเงินทหารเรือ ได้พัฒนาระบบ E-mobile Slip เพื่อให้ข้าราชการกองทัพเรือสามารถตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนได้ด้วยตนเองผ่านทางระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Smart Phone) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ เข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานครั้งแรก เพื่อตั้งค่ารหัสผ่านในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือที่ http://info.navy.mi.th/finance แบนเนอร์ “สลิปเงินเดือน” หลังเข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานแล้ว โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Android สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมผ่าน Play Store โดยค้นหาคำว่า “e-slip” และติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ iOS ให้เปิด Browser และเข้าเว็บไซต์ http://www.finance.navy.mi.th/mobile_https หรือด้วยการสแกนผ่านบาร์โค้ดในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือ จากนั้นจึงเข้าใช้งานด้วยรหัสผู้ใช้งานเป็นเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ ข้อมูล กง.ทร. ๒๘ ก.ย.๕๙

ศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ (One Stop Service : OSS)

  ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ได้เปิดที่ทำการอาคารศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ( One Stop Service : OSS) หรืออาคารสภาเรือแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่วังนันทอุทยาน ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการเพื่อช่วยเหลือ แนะนำ และอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการกองทัพเรือที่ลาออกจากราชการและเกษียณอายุราชการ รวมทั้งทายาท ให้สามารถเข้าถึงการบริการด้านสิทธิกำลังพลได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยการรวมจุดบริการมาไว้เพียงจุดเดียว อาทิ การเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาคุณภาพการสวัสดิการและการบริการให้กับกำลังพลและครอบครัว เพื่อให้มีขวัญกำลังใจและคุณภาพชีวิตที่ดี   โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสภาเรือ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.60 ที่ผ่านมา   และเรียนเชิญผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคาร ศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ในวันที่ 8 พ.ค.61 สำหรับอาคารสภาเรือ ที่สร้างขึ้นนี้   มีรูปแบบการดำเนินการ ใน 3 ส่วนคือ 1. ด้านกำลังพล ได้แก่ ก

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า “พฤฒเวชโฮมแคร์” ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ โดยทีมงานคุณภาพมาตรฐาน เพื่อความสุขสบายของคนที่คุณรัก ภายในบรรยากาศที่อบอุ่นเสมือนบ้าน รับผู้สูงอายุชาย – หญิง อายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป            นอกจากนั้นยังจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ตามสภาพร่างกาย และความเหมาะสมของผู้เข้ารับการบริการ เช่น การทำบุญตักบาตร การสวดมนต์ การสนทนา โดยใช้หลักจิตวิทยาเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง การออกกำลังกาย กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการแพทย์ตรวจเยี่ยม ๒ ครั้งต่อเดือน แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูตรวจเยี่ยม ๑ ครั้งต่อเดือน พยาบาลวิชาชีพเยี่ยมประเมิน ๔ ครั้งต่อเดือน ผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโลเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๖ ๑๖๑๕ ๒๖๕๒ และ ๐๘ ๖๓๘๒ ๗๖๙๙                                                                         ข้อมูล รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ