กองทัพเรือ ร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการ มูลนิธิพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ชมรมคนรักษ์ป้อมพระจุลจอมเกล้าและหน่วยงานต่างๆ จัดงานรำลึกวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ครบรอบ ๑๑๙ ปี ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ และพิธีสดุดีวีรชน
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เป็นยุคที่ประเทศมหาอำนาจล่าอาณานิคม โดยมีเป้าหมายที่ประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ด้วยพระวิจารณญาณและพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้สร้างป้อมปราการที่ทันสมัยขึ้น บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบกับงบประมาณรายได้ของแผ่นดิน ทรงทดลองยิงปืนที่ป้อมและได้พระราชทานชื่อป้อมแห่งนี้ว่าป้อมพระจุลจอมเกล้า ซึ่งภายหลังการสร้างป้อมพระจุลจอมเกล้า เสร็จลง ป้อมนี้ก็ได้มีส่วนสำคัญในการต่อสู้ในเหตุการณ์วิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒
วันแห่งประวัติศาสตร์ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๖ (ร.ศ.๑๑๒) หมู่เรือรบฝรั่งเศสได้ส่งเรือปืน ชั้น ๑ คือ แองกองสตังค์และเรือปืนโคเมตล่วงล้ำผ่านปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามา แม้ปืนจากป้อมพระจุลจอมเกล้าได้ยิงปืนเตือน แต่เรือฝรั่งเศสยังแล่นรุกล้ำเข้ามา เรือรบฝ่ายไทย ประกอบด้วย เรือมกุฎราชกุมาร เรือมูรธาวสิตสวัสดิ์ เรือหาญหักศัตรู เรือนฤเบนทร์บุตรี เรือทูลกระหม่อม ซึ่งมีเรือที่ทันสมัยเพียงเรือมกุฎราชกุมาร และเรือมูรธาวสิตสวัสดิ์ นอกจากนั้นเป็นเรือล้าสมัย หรือเรือกลไฟประจำในแม่น้ำ ซึ่งแม้จะทำการต่อสู้อย่างเต็มกำลังความสามารถ แต่ด้วยศักยภาพของเรือฝรั่งเศสที่เหนือกว่า ทำให้เรือรบของฝรั่งเศสคงแล่นผ่านเข้ามาจอดที่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส การรบครั้งนี้ทหารฝ่ายไทยเสียชีวิต ๘ นาย บาดเจ็บ ๔๐ นาย ทหารฝรั่งเศสเสียชีวิต ๓ นาย บาดเจ็บ ๓ นาย และไทยต้องเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (ดินแดนลาวเกือบทั้งหมด) รวมทั้งแคว้นสิบสองจุไทยให้เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพัฒนาให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ โดยส่งพระราชโอรสหลายพระองค์ไปศึกษา
ในยุโรป ทรงเห็นความสำคัญของการให้คนไทยทำหน้าที่แทนชาวต่างประเทศในตำแหน่งสำคัญทางทหาร ทรงจัดการการศึกษาแก่ทหารเรือไทยจนเกิดมีโรงเรียนนายเรือขึ้น ทรงเจริญพระราชไมตรีกับนานาประเทศ ทรงส่งราชทูตไปประจำประเทศต่างๆ และได้เสด็จประพาสประเทศต่างๆ ในยุโรปเพื่อเจริญสัมพันธ์ไมตรี นับเป็นพระปรีชาสามารถในการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่สำคัญทำให้ไม่มีชาติใดมารุกรานไทยเช่นนี้อีก เพื่อเป็นการระลึกถึงวีรกรรมของเหล่าบรรพชนผู้กล้าในวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ กองทัพเรือจึงได้จัดงานรำลึกวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ครบ ๑๑๙ ปี ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕
ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า
วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๐๐๐-๒๐๓๐
- พิธีสงฆ์ ชมสารคดีเหตุการณ์ ร.ศ.๑๑๒ การจัดเสวนาเรื่องข้อมูลทางลึกวิกฤต ร.ศ.๑๑๒
- พิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ พิธีสดุดีวีรชนในวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒
- การจัดนิทรรศการ การแสดงดนตรีวงดุริยางค์ทหารเรือ การแสดงท่าอาวุธประกอบดนตรี
(แฟนซีดริล) การแสดงประวัติธงชาติไทย และธงราชนาวี เชิญธงราชนาวีลง พิธีย่ำพระสุริย์ศรี
- การจำหน่ายสินค้า OTOP
- การแสดงจากศิลปินนักร้อง นักแสดงที่มีชื่อเสียง และการแข่งขันตอบปัญหาชิงรางวัลในหัวข้อ ที่เกี่ยวกับวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒
วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๐๐๐-๒๐๓๐
- การจัดนิทรรศการและการแสดงสินค้า OTOP
- การแสดงดนตรีวงดุริยางค์ทหารเรือ
- การแสดงรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์)
- การแสดงของนักเรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาในพื้นที่ จังหวัดสมุทรปราการ การแสดงของนักเรียนทหารของกองทัพเรือ
- การแสดงจากศิลปิน นักร้อง นักแสดงที่มีชื่อเสียง และการแข่งขันตอบปัญหาชิงรางวัลในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒
วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๓๖ (ร.ศ.๑๑๒) เป็นวันที่เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ทำให้ประเทศไทยสูญเสียดินแดนครั้งสำคัญที่สุด และทุกวันที่ ๑๓ กรกฎาคมของทุกปี กองทัพเรือได้จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่วีรชนผู้พลีชีพเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศชาติในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยในปี ๒๕๕๕ จะเป็นการรำลึกวิกฤตการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ปีที่ ๑๑๙
ข้อมูล กพร.ทร.
๑๐ ก.ค.๕๕
Comments