กองทัพเรือ จัดกิจกรรมเนื่องในวันกองทัพเรือ ๑๐๔ ปี

เนื่องในวันกองทัพเรือ เวียนมาบรรจบครบ ๑๐๔ ปี ในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ กองทัพเรือ ได้จัดกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย ในช่วงเช้ามีพิธีทำบุญประจำปี ณ ท้องพระโรงพระราชวังเดิม และกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลา บริเวณท่าเทียบเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ โดยมี พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานฯ
ในช่วงเย็น ได้จัดให้มีงานเลี้ยงรับรองและพิธีมอบรางวัลเกียรติยศนาวีให้แก่บุคคลดีเด่นของกองทัพเรือ จำนวน ๙ นาย โดยกองทัพเรือ ได้เรียนเชิญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีฯ
กองทัพเรือ ได้ถือเอาวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันกองทัพเรือ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิมธนบุรี และได้พระราชทานพระราชหัตถเลขาไว้ในสมุดเยี่ยมของโรงเรียนนายเรือว่า “วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๒๕ จุฬาลงกรณ์ ปร. ได้มาเปิดโรงเรียนนี้ มีความปลื้มใจซึ่งได้เห็นการทหารเรือมีรากหยั่งลงแล้ว จะเปนที่มั่นสืบไปในภายน่า” เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๔๙ นับเป็นการวางรากฐานในการพัฒนากิจการทหารเรือให้มีความเจริญก้าวหน้าและมั่งคงสืบเนื่องมาเป็นเวลายาวนานจนถึงทุกวันนี้
ในรอบปีที่ผ่านมา กองทัพเรือ นอกจากปฏิบัติหน้าที่อย่างมุ่งมั่นตามภารกิจหลักในการป้องกันอธิปไตยและคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การปกป้องเทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กองทัพเรือ ยังได้ดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการจัดกำลังเพื่อป้องกันประเทศจากภัยคุกคามทางทะเล การจัดหมู่เรือเดินทางไปให้ความคุ้มครองเรือประมงและเรือสินค้าไทยร่วมกับกองเรือนานาชาติ การปราบปรามการก่อการร้ายในพื้นที่รับผิดชอบการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ การสนับสนุนการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตของประชาชนตลอดจนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสถานการณ์ต่างๆ ในทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในปีนี้ กองทัพเรือได้จัดยุทโธปกรณ์

และกำลังพลไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน โดยได้จัดยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก จากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและเรือท้องแบน พร้อมกำลังพลทำการขนย้ายผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยและแจกจ่ายถุงยังชีพให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนที่ติดค้างอยู่ภายในที่พักอาศัย
นอกจากนี้ กองทัพเรือ ได้จัดเรือหลวงจักรีนฤเบศรพร้อมเฮลิคอปเตอร์จำนวนหนึ่ง ประกอบกำลังเป็นหมู่เรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ที่เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน โดยนำถุงยังชีพพระราชทาน และนำเงินที่ได้รับบริจาคไปจัดซื้อน้ำดื่มและของใช้จำเป็นเพื่อไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งให้การช่วยเหลือคนเจ็บท้องใกล้คลอดเพื่อนำส่งโรงพยาบาล แต่ได้เกิดการคลอดบุตรในขณะเดินทางบนเรือยางก่อน และได้ให้การช่วยเหลือทำคลอดจนปลอดภัยทั้งแม่และลูก
เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในภารกิจอันมากมายของกองทัพเรือ ที่ได้ดำเนินการในอันที่จะป้องกันอันตรายและความสงบสุขมาสู่ประชาชน
ข้อมูล ข่าวสาร ทร.
๑๙ พ.ย.๕๓