เนื่องด้วยขณะนี้ประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว และจากการพยากรณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายว่าในปีนี้อากาศจะหนาวเย็นที่สุดในรอบ ๓๐ ปี และมีสภาพอากาศหนาวที่ยาวนาน ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใจในสุขภาพของประชาชนเนื่องจากสภาวะอากาศเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดโรคภัยต่างๆ แทรกซ้อนได้ง่ายโดยเฉพะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง ต้องระมัดระวังการเจ็บป่วยจากโรคซึ่งมักพบได้บ่อยในช่วงฤดูหนาว ๖ โรค ได้แก่ โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคสุกใส และโรคอุจจาระร่วง รวมถึงโรคที่เกิดจากสภาพอากาศที่แห้ง เช่น โรคผิวหนัง และการเสียชีวิตของผู้สูงอายุด้วยภัยหนาวเป็นต้น
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ออกคำแนะนำให้ประชาชนทราบถึงการป้องกันภัยด้านสุขภาพจากอากาศหนาว โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า ๕ ปี กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ ๖๕ ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคโลหิตจาง เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มเสี่ยงมีภูมิต้านทานต่อโรคต่ำ เจ็บป่วยได้ง่าย และเมื่อป่วยจะมีอาการรุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป ควรรักษาความอบอุ่นของร่างกาย โดยสวมเสื้อผ้าหนาๆ ใส่ถุงเท้า หมวกไหมพรม และห่มผ้าให้อบอุ่น การดื่มน้ำและเครื่องดื่มอุ่นๆ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ประเภทแป้งและไขมัน เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจะช่วยสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย ส่วนสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพ ได้แก่ การดื่มสุรา ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายแล้ว ยังมีผลเสียทำให้ร่างกายไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ การผิงไฟในเต็นท์จะทำให้ร่างกายได้รับสารพิษเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ การนำเด็กไปใกล้บริเวณที่มีการก่อไฟให้ความอบอุ่น ควันไฟจะระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจของเด็ก การนอนในที่แจ้ง ลมโกรกโดยไม่มีเครื่องป้องกันให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย การอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด จะทำให้มีโอกาสรับเชื้อโรคได้ง่าย
ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนทุกคนโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และปฏิบัติตนตามคำแนะนำของการควบคุมโรค เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคภัยในช่วงฤดูหนาว
ข้อมูล นสพ.สยามรัฐ
๙ พ.ย.๕๓
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ออกคำแนะนำให้ประชาชนทราบถึงการป้องกันภัยด้านสุขภาพจากอากาศหนาว โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า ๕ ปี กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ ๖๕ ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคโลหิตจาง เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มเสี่ยงมีภูมิต้านทานต่อโรคต่ำ เจ็บป่วยได้ง่าย และเมื่อป่วยจะมีอาการรุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป ควรรักษาความอบอุ่นของร่างกาย โดยสวมเสื้อผ้าหนาๆ ใส่ถุงเท้า หมวกไหมพรม และห่มผ้าให้อบอุ่น การดื่มน้ำและเครื่องดื่มอุ่นๆ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ประเภทแป้งและไขมัน เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจะช่วยสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย ส่วนสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพ ได้แก่ การดื่มสุรา ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายแล้ว ยังมีผลเสียทำให้ร่างกายไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ การผิงไฟในเต็นท์จะทำให้ร่างกายได้รับสารพิษเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ การนำเด็กไปใกล้บริเวณที่มีการก่อไฟให้ความอบอุ่น ควันไฟจะระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจของเด็ก การนอนในที่แจ้ง ลมโกรกโดยไม่มีเครื่องป้องกันให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย การอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด จะทำให้มีโอกาสรับเชื้อโรคได้ง่าย
ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนทุกคนโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และปฏิบัติตนตามคำแนะนำของการควบคุมโรค เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคภัยในช่วงฤดูหนาว
ข้อมูล นสพ.สยามรัฐ
๙ พ.ย.๕๓
Comments