เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ พร้อมคณะฯ เดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำ จังหวัดเพชรบุรี พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ และการดำเนินการผลักดันน้ำที่ผ่านมา
กองทัพเรือ ได้ดำเนินการติดตั้งและเดินเครื่องเรือผลักดันน้ำ จำนวน ๓๐ ลำ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ณ บริเวณสะพานวัดคุ้งตำหนัก ตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเร่งการระบายน้ำลงสู่ทะเล ซึ่งเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือ สามารถผลักดันน้ำได้ ๑๐๔,๖๘๘ ลูกบาศก์เมตร/เครื่อง/วัน ซึ่งสามารถดึงมวลน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ประสบอุทกภัย
ในจังหวัดเพชรบุรี ลดลงอย่างรวดเร็ว ประชาชนในพื้นที่สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติสุขอย่างรวดเร็ว
เรือผลักดันน้ำทั้ง ๓๐ ลำ มีประสิทธิภาพในการผลักดันน้ำสามารถผลักดันน้ำต่อเนื่องได้ ๒๔.๒ ลูกบาศก์เมตร/ นาที จะสามารถดึงน้ำรอบ ๆ ตัวไปได้ ๑:๓ หรือประมาณ ๗๒.๗ ลูกบาศก์เมตร/นาทีสามารถทุเลาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จากกรณีน้ำท่วมได้ สถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ การดำเนินการติดตั้งเรือผลักดันน้ำกรณีเร่งด่วนที่ผ่านมานี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ในการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน และระงับเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้คลี่คลายได้ทันท่วงที ทั้งในพื้นที่รับผิดชอบ หรือตามพื้นที่ต่าง ๆ จะประสาน รวมทั้งเป็นการทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งในการปฏิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นอีกมิติหนึ่งที่กำลังพลทหารเรือภาคภูมิใจ พร้อมกับเป็นการยืนยันคำมั่นที่ว่า "ทหารเรือ จะอยู่เคียงข้างประชาชน"
ทั้งนี้ กองทัพเรือ ยังคงเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่ จะให้การสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน ๑๖๙๖ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
ข้อมูล ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ๒๘ พ.ย.๖๐
ทั้งนี้ การดำเนินการติดตั้งเรือผลักดันน้ำกรณีเร่งด่วนที่ผ่านมานี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ในการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน และระงับเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้คลี่คลายได้ทันท่วงที ทั้งในพื้นที่รับผิดชอบ หรือตามพื้นที่ต่าง ๆ จะประสาน รวมทั้งเป็นการทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งในการปฏิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นอีกมิติหนึ่งที่กำลังพลทหารเรือภาคภูมิใจ พร้อมกับเป็นการยืนยันคำมั่นที่ว่า "ทหารเรือ จะอยู่เคียงข้างประชาชน"
ทั้งนี้ กองทัพเรือ ยังคงเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่ จะให้การสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน ๑๖๙๖ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
ข้อมูล ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ๒๘ พ.ย.๖๐
Comments