Skip to main content

ศปมผ. แจ้งกำหนดห้วงเวลาที่จะให้ผู้ประสงค์ทำการประมงพาณิชย์มายื่นคำขอรับใบอนุญาต

กรมประมงกำหนดห้วงเวลาที่ให้ผู้ที่จะประสงค์ทำการประมงพาณิชย์ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.๒๕๕๘ มายื่นคำขอรับใบอนุญาตระหว่าง ๑ – ๑๕ มี.ค.๕๙ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ๑. กรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมประมง ๒. จังหวัดอื่นให้ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานประมงอำเภอแห่งท้องที่ที่มีอาณาเขตติดทะเล ๓. เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบในการยื่นคำขอ ได้แก่ ๓.๑ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ พร้อมบัตรตัวจริงมาแสดง ๓.๒ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แสดงวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการประมง (กรณีที่เป็นนิติบุคคล) ๓.๓ สำเนาใบทะเบียนเรือไทยและสำเนาใบอนุญาตใช้เรือ พร้อมตัวจริงมาแสดง ๓.๔ หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีที่มีการมอบอำนาจ) ๓.๕ สำเนาใบอนุญาตทำการประมงในปีการประมงที่ผ่านมา ๓.๖ ใบรายงานการติดตั้งอุปกรณ์ระบุตำแหน่งเรือประมง ๓.๗ รูปถ่ายปัจจุบันหรือภาพถ่ายดิจิตอลของเรือและเครื่องมือทำการประมง จำนวน ๔ รูป ดังนี้ ๓.๗.๑ ภาพหัวเรือที่เห็นทะเบียนเรือชัดเจน จำนวน ๑ รูป ๓.๗.๒ ภาพถ่ายเรือเต็มลำด้านซ้ายและด้านขวาที่เห็นชัดเจน ด้านละ ๑ รูป ๓.๗.๓ ภาพถ่ายเครื่องมือทำการประมงที่จะขออนุญาตบนเรือประมง จำนวน ๑ รูป ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงข้างต้น ถือเป็นการปฏิรูปของเรือประมงไทยครั้งสำคัญซึ่งจะทำให้การควบคุมจำนวนเรือทั้งเรือประมงและเรือขนถ่าย และจัดระเบียบเรือเหล่านี้ให้เข้าสู่ระบบและมาตรฐานที่ถูกต้องในอนาคตกระทำได้ง่ายขึ้น ขอให้พี่น้องชาวประมงร่วมแรงร่วมใจกันในการปฏิรูปของเรือประมงของไทยเรา เพื่อให้ประมงไทยมีความยั่งยืนต่อไป โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ดังนี้ ๑. เรือประมงพาณิชย์ เรือขนถ่ายทุกลำ ทั้งในน่านน้ำและนอกน่านน้ำ จะได้รับ “สมุดประจำเรือประมง” ซึ่งจะรวมข้อมูลของกรมเจ้าท่า (ทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ) และกรมประมง (ใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ใบอนุญาตทำการประมงนอกน่านน้ำไทย ใบอนุญาตทำการขนถ่ายสัตว์น้ำ) เข้าไว้ในเล่มเดียวกัน ควบคุมด้วยระบบ e – Licence เชื่อมโยงระหว่างสำนักงานประมง ทั้งใน กทม. และจังหวัดชายทะเล ๒. สำหรับเรือ ๓๐ ตันกรอสขึ้นไปทุกลำ ต้องติดตั้ง VMS ก่อนจึงจะได้รับสมุดประจำเรือประมงตามข้อ ๑ ๓. นอกจากสมุดประจำเรือประมงแล้ว เรือทุกลำจะได้รับ QR Code ให้นำไปติดในห้องควบคุมเรือและจะได้รับเครื่องหมายประจำเรือประมง (Marking) ให้นำไปเขียนที่หัวเรือให้เห็นชัดเจน ๔. ระบบ e – Licence จะบูรณาการข้อมูลงานทะเบียนและใบอนุญาตเกี่ยวกับเรือประมง เรือขนถ่ายระหว่างกรมเจ้าท่าและกรมประมงเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องระหว่างกันได้ ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่เคลื่อนไหวน้อย เมื่อบันทึกได้ถูกต้องลงระบบในครั้งแรกแล้ว สามารถลดภาระการตรวจที่ศูนย์ PIPO ลงได้ และจะเน้นตรวจเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับแรงงานในเรือเป็นหลักเพราะเปลี่ยนแปลงบ่อย ๕. เรือประมงที่ไม่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงเพราะเกิน MSY แล้ว จะไม่สามารถออกทำประมงได้ เพราะจะไม่ได้รับทั้งสมุดประจำเรือประมง QR Code และเครื่องหมายประจำเรือประมง (Marking) หากฝ่าฝืน จะมีโทษปรับรุนแรงตามกฎหมายใหม่ ๖. การตรวจเรือประมงที่ฝ่าฝืนในทะเลจะกระทำได้ง่ายขึ้นเพราะมีเครื่องช่วยหลายอย่าง เช่น สังเกตจากเครื่องหมายประจำเรือประมง (Marking) ตรวจสอบ QR Code และสมุดประจำเรือประมง ทั้งหมดนี้หากมีการปลอมแปลงสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย --ข้อมูล สน.ปชส.ศปมผ. ๒๔ ก.พ.๕๙

Comments

Popular posts from this blog

กง.ทร.พัฒนาระบบ E-mobile Slip ใช้ตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนผ่านสมาร์ทโฟน

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการกองทัพเรือ กองทัพเรือ โดยกรมการเงินทหารเรือ ได้พัฒนาระบบ E-mobile Slip เพื่อให้ข้าราชการกองทัพเรือสามารถตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนได้ด้วยตนเองผ่านทางระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Smart Phone) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ เข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานครั้งแรก เพื่อตั้งค่ารหัสผ่านในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือที่ http://info.navy.mi.th/finance แบนเนอร์ “สลิปเงินเดือน” หลังเข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานแล้ว โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Android สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมผ่าน Play Store โดยค้นหาคำว่า “e-slip” และติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ iOS ให้เปิด Browser และเข้าเว็บไซต์ http://www.finance.navy.mi.th/mobile_https หรือด้วยการสแกนผ่านบาร์โค้ดในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือ จากนั้นจึงเข้าใช้งานด้วยรหัสผู้ใช้งานเป็นเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ ข้อมูล กง.ทร. ๒๘ ก.ย.๕๙

ศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ (One Stop Service : OSS)

  ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ได้เปิดที่ทำการอาคารศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ( One Stop Service : OSS) หรืออาคารสภาเรือแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่วังนันทอุทยาน ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการเพื่อช่วยเหลือ แนะนำ และอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการกองทัพเรือที่ลาออกจากราชการและเกษียณอายุราชการ รวมทั้งทายาท ให้สามารถเข้าถึงการบริการด้านสิทธิกำลังพลได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยการรวมจุดบริการมาไว้เพียงจุดเดียว อาทิ การเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาคุณภาพการสวัสดิการและการบริการให้กับกำลังพลและครอบครัว เพื่อให้มีขวัญกำลังใจและคุณภาพชีวิตที่ดี   โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสภาเรือ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.60 ที่ผ่านมา   และเรียนเชิญผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคาร ศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ในวันที่ 8 พ.ค.61 สำหรับอาคารสภาเรือ ที่สร้างขึ้นนี้   มีรูปแบบการดำเนินการ ใน 3 ส่วนคือ 1. ด้านกำลังพล ได้แก่ ก

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า “พฤฒเวชโฮมแคร์” ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ โดยทีมงานคุณภาพมาตรฐาน เพื่อความสุขสบายของคนที่คุณรัก ภายในบรรยากาศที่อบอุ่นเสมือนบ้าน รับผู้สูงอายุชาย – หญิง อายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป            นอกจากนั้นยังจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ตามสภาพร่างกาย และความเหมาะสมของผู้เข้ารับการบริการ เช่น การทำบุญตักบาตร การสวดมนต์ การสนทนา โดยใช้หลักจิตวิทยาเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง การออกกำลังกาย กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการแพทย์ตรวจเยี่ยม ๒ ครั้งต่อเดือน แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูตรวจเยี่ยม ๑ ครั้งต่อเดือน พยาบาลวิชาชีพเยี่ยมประเมิน ๔ ครั้งต่อเดือน ผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโลเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๖ ๑๖๑๕ ๒๖๕๒ และ ๐๘ ๖๓๘๒ ๗๖๙๙                                                                         ข้อมูล รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ