Skip to main content
การพัฒนาการของอาเซียน วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๗ เป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ ๔๗ ของอาเซียน นับตั้งแต่ที่มีการประกาศ “ปฎิญญากรุงเทพ” ที่ประเทศไทยเพื่อก่อตั้ง “สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” หรือ “อาเซียน” โดย ๕ ประเทศสมาชิกแรกตั้ง ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และไทย และสามารถแบ่งช่วงของอาเซียนตามลักษณะสำคัญในแต่ละทศวรรษได้ดังนี้ ทศวรรษแรก ระหว่างปี ๒๕๑๐ – ๒๕๑๙ เป็นยุคก่อร่างสร้างตัว มีการประชุมสุดยอดเป็นครั้งแรกที่เกาะบาหลี อินโดนีเซียในปี ๒๕๑๙ และได้ลงนามใน “สนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” อันเป็นกฎ กติกา มารยาทสำคัญของอาเซียน รวมทั้งยังได้ตกลงตั้งสำนักเลขาธิการอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา ด้วย ทศวรรษที่สองระหว่างปี ๒๕๒๐-๒๕๒๙ เป็นยุคแห่งการมีตัวตนในประชาคมโลก (ในปี ๒๕๒๗ บรูไนฯ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก) ในยุคนี้จากผลงานผนึกกำลังของอาเซียนในการแสดงจุดยืนต่อต้านการยึดครองกัมพูชาของเวียดนาม ในปี ๒๕๒๒ ผ่านเวทีระหว่างประเทศ ทำให้อาเซียนเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก ทศวรรษที่สามระหว่างปี ๒๕๓๐-๒๕๓๙ เป็นยุคแห่งการเติบโต และมีปฏิสัมพันธ์กับภายนอก (ในปี ๒๕๓๘ เวียดนามได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก) อาเซียนได้รับการยอมรับทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง มีการก่อตั้ง “เขตการค้าเสรีอาเซียน” ในปี ๒๕๓๕ ทศวรรษที่ ๔ ระหว่างปี ๒๕๔๐-๒๕๔๙ เป็นยุคแห่งวิกฤตเศรษฐกิจและการฟื้นตัว อาเซียนในช่วงนี้ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ ทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือในระดับสากล อย่างไรก็ตาม อาเซียนใช้เวลาไม่นานในการผลิตฟื้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นกลับมาใหม่ โดยได้รับการสนับสนุน และความร่วมมือจากประเทศสำคัญในเอเชียตะวันออก คือ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ ในกรอบอาเซียนบวกสาม และอาเซียนได้ขยายสมาชิกภาพจนมีสมาชิก ๑๐ ประเทศ โดยลาวและเมียนมาร์เข้าเป็นสมาชิกในปี ๒๕๔๐ และกัมพูชาเข้าเป็นสมาชิกในปี ๒๕๔๒ ทศวรรษที่ห้าระหว่างปี ๒๕๕๐ – ๒๕๕๙ เป็นยุคแห่งการบูรณาการเป็นประชาคมอาเซียน อาเซียนได้เพิ่มความร่วมมือกันอย่างขนานใหม่ เพื่อยกระดับสมาคมอาเซียนขึ้นเป็นประชาคมอาเซียน มีการออกกฎบัตรอาเซียน, พิมพ์เขียวปฏิบัติการ ตลอดจนข้อตกลง และมาตรการเร่งรัดต่างๆ ทำให้อาเซียนสามารถเผชิญกับโลกาภิวัตน์ได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันประเทศมหาอำนาจต่างๆ ก็ให้ความสำคัญกับอาเซียนมากขึ้น จึงถือได้ว่าอาเซียนมีความมั่นคงในระดับหนึ่งแล้ว โดยประเทศสมาชิกยังคงร่วมมือผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่น ที่จะผลักดันให้อาเซียนก้าวไปอย่างมั่นคงในประชาคมโลกต่อไป ข้อมูล นสพ.มติชน ๑๓ ส.ค.๕๗

Comments

Popular posts from this blog

กง.ทร.พัฒนาระบบ E-mobile Slip ใช้ตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนผ่านสมาร์ทโฟน

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการกองทัพเรือ กองทัพเรือ โดยกรมการเงินทหารเรือ ได้พัฒนาระบบ E-mobile Slip เพื่อให้ข้าราชการกองทัพเรือสามารถตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนได้ด้วยตนเองผ่านทางระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Smart Phone) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ เข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานครั้งแรก เพื่อตั้งค่ารหัสผ่านในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือที่ http://info.navy.mi.th/finance แบนเนอร์ “สลิปเงินเดือน” หลังเข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานแล้ว โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Android สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมผ่าน Play Store โดยค้นหาคำว่า “e-slip” และติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ iOS ให้เปิด Browser และเข้าเว็บไซต์ http://www.finance.navy.mi.th/mobile_https หรือด้วยการสแกนผ่านบาร์โค้ดในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือ จากนั้นจึงเข้าใช้งานด้วยรหัสผู้ใช้งานเป็นเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ ข้อมูล กง.ทร. ๒๘ ก.ย.๕๙

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า “พฤฒเวชโฮมแคร์” ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ โดยทีมงานคุณภาพมาตรฐาน เพื่อความสุขสบายของคนที่คุณรัก ภายในบรรยากาศที่อบอุ่นเสมือนบ้าน รับผู้สูงอายุชาย – หญิง อายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป            นอกจากนั้นยังจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ตามสภาพร่างกาย และความเหมาะสมของผู้เข้ารับการบริการ เช่น การทำบุญตักบาตร การสวดมนต์ การสนทนา โดยใช้หลักจิตวิทยาเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง การออกกำลังกาย กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการแพทย์ตรวจเยี่ยม ๒ ครั้งต่อเดือน แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูตรวจเยี่ยม ๑ ครั้งต่อเดือน พยาบาลวิชาชีพเยี่ยมประเมิน ๔ ครั้งต่อเดือน ผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโลเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๖ ๑๖๑๕ ๒๖๕๒ และ ๐๘ ๖๓๘๒ ๗๖๙๙                                                                         ข้อมูล รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ

กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวีให้บริการจัดการศพแบบครบวงจร

ฌาปนสถานกองทัพเรือ วัดเครือวัลย์วรวิหาร ให้บริการจัดการศพแบบครบวงจร โดยให้คำแนะนำในการแจ้งเสียชีวิตและจัดการศพ, ติดต่อประสานงานกับการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี, จัดหาหีบศพพร้อมรถบริการรับ-ส่งศพ, จัดหาดอกไม้ประดับหน้าศพและพวงหรีด, จัดหาเครื่องไทยธรรมพร้อมดอกไม้ถวายพระ, จัดหาอาหารและเครื่องดื่ม, จัดหาดอกไม้จันทน์พร้อมช่อเชิญประธาน และติดต่อแนะนำสถานที่ในการลอยอังคาร สอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๖๕ ๑๐๑๓, ๐ ๒๔๗๕ ๕๑๖๒, ๐ ๒๔๗๕ ๓๒๑๙ ข้อมูล กิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี ๑๔ พ.ค.๕๘