กองทัพเรือ จัดงานพีธีสดุดีวีรชน
เพื่อระลึกถึงวีรชนของทหารเรือที่ได้เสียสละชีวิตเพื่อกองทัพเรือและประเทศชาติ ณ
อนุสรณ์ เรือหลวงธนบุรี โรงเรียนนายเรือ
จังหวัด สมุทรปราการ ในวันที่
๑๗ มกราคม ๒๕๕๖
ภายในงาน ประกอบด้วย พิธีวางพวงมาลา
พิธีบำเพ็ญกุศล และพิธีสดุดีวีรชน โดยพลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธี ฯ
พิธีสดุดีวีรชน
เป็นพิธีสำคัญที่กองทัพเรือจัดขึ้นในวันที่ ๑๗
มกราคม เป็นประจำทุกปี
เพื่อให้ทหารเรือทุกคนได้แสดงความเคารพและระลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของบรรพชนทหารเรือที่ได้เสียสละชีวิตในสมรภูมิการรบอย่างกล้าหาญ
เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติจากศัตรูที่รุกรานแผ่นดิน
โดยเฉพาะเหตุการณ์ในยุทธนาวีที่เกาะช้าง ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ๑๗
มกราคม ๒๔๘๔ แม้เวลาจะผ่านพ้นไปนานสักเพียงใด แต่วีรกรรมของวีรชนกองทัพเรือยังคงอยู่ในความทรงจำของเหล่าทหารเรือ
อาทิ นาวาโท พร้อม วีรพันธุ์ ผู้บังคับการเรือหลวงธนบุรี ซึ่งได้สละชีวิตพร้อมกับกำลังพลของเรือหลวงสงขลาและเรือหลวงชลบุรี
รวม ๓๖ นาย
ขณะนำเรือเข้าต่อสู้กับเรือลามอตต์ปิเกต์ของฝรั่งเศส ระหว่างการรบที่เกาะช้าง , นาวาตรี ประวิทย์
รัตนอุบล ผู้บังคับการเรือหลวงสมุย ซึ่งถูกเรือดำน้ำพันธมิตรโจมตี จนเสียชีวิตพร้อมกำลังพลประจำเรือ รวม ๓๑
นาย ในระหว่างสงครามสงครามมหาเอเชียบูรพา
, พันจ่าเอก เชื้อ มีเงิน
และพันจ่าเอก เล็ก ดอกไม้ สังกัดกองร้อยต่อสู้อากาศยาน
เสียสละชีวิตขณะยิงต่อสู้กับเครื่องบินพันธมิตร เมื่อวันที่
๑๘ เมษายน ๒๔๘๘ ,
จ่าโท ผวน พรสยม และจ่าโท ชั้น
เมืองอ่ำ ลูกเรือของเรือหลวงประแส
ซึ่งเสียสละชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจระดมยิงฝั่งในระหว่างสงครามเกาหลี เมื่อวันที่ ๖
มกราคม ๒๔๙๔
นอกจากนี้ ยังมียุทธการสำคัญที่ทำให้
กองทัพเรือต้องสูญเสียทหารเรือผู้กล้าไปจำนวนมาก
เช่นการปราบปรามผู้ก่อการร้ายตามแผนยุทธการสามชัย
จังหวัดเพชรบูรณ์
รวมไปถึงการปฏิบัติภารกิจด้วยความกล้าหาญเพื่อความสันติสุขในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่อุทิศตนและเสียสละเพื่อปกป้องสถาบันชาติ
ศาสนา พระมหากษัตริย์
เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีชีวิตอยู่อย่างสันติ นับเป็นสิ่งที่สมควรได้รับการสรรเสริญยกย่อง
เช่นเดียวกับวีรกรรมและความกล้าหาญของบรรพชนทหารเรือที่ได้แสดงให้เป็นที่ประจักษ์
ตั้งแต่ครั้งอดีตและได้รับการสดุดียกย่องดำรงอยู่ในจิตใจของทหารเรือทุกคนจนถึงปัจจุบัน
ข้อมูล
ข่าวสาร ทร.
๑๖ ม.ค.๕๖
Comments