Skip to main content

รักษากฎ ลดอุบัติเหตุ ช่วงเทศกาลสงกรานต์

รักษากฎ ลดอุบัติเหตุ ช่วงเทศกาลสงกรานต์


“อุบัติเหตุ” ที่หลายคนคิดว่าเป็นเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด เป็นคราวเคราะห์ของผู้ประสบซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ ในทางตรงกันข้าม อุบัติเหตุ สามารถป้องกันและหลีกเลี่ยง
ได้หากไม่ประมาท
อุบัติเหตุเนื่องจากการจราจรทางบกโดยเฉพาะอุบัติเหตุเกี่ยวกับยานยนต์เป็นสาเหตุการตายและ
บาดเจ็บสูงสุดของสถิติอุบัติเหตุที่รุนแรงทุกประเภท
ในประเทศไทยจากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข อัตราการตายของประชากรจากอุบัติเหตุสูงสุดเป็นอันดับ ๑ มาตั้งแต่ปี ๒๕๑๓ และในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน เป็นวันปีใหม่ไทยที่มีการสืบสานประเพณีอันดีงาม มีการทำบุญตักบาตร สรงน้ำ รดน้ำดำหัว สาดน้ำกันตามประเพณี มีการเดินทางกลับบ้านของผู้คนที่ออกมาทำมาหากินต่างถิ่นกันเป็นจำนวนมาก เป็นเทศกาลแห่งความสุข สนุกสนาน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ที่ทำให้หลายฝ่ายตระหนักและหันมาร่วมมือกันรณรงค์แก้ไขอย่างจริงจังก็คืออุบัติเหตุ ที่คร่าชีวิตผู้คน นำความสูญเสียทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล รวมทั้งยังทำให้มีผู้บาดเจ็บ พิการ และไร้ที่พึ่งจากการขาดหัวหน้าครอบครัวอีกเป็นจำนวนมาก นับเป็นความ
สูญเสียที่มิอาจประเมินค่าได้
จากการวิจัย สาเหตุของอุบัติเหตุ ๖๐ % เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ ๓๐ % เกิดจากสภาพการจราจร และ ๑๐ % เกิดจากข้อบกพร่องของรถยนต์ ดังนั้นหากแก้ไขความผิดพลาดของมนุษย์ได้ก็จะสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุลงได้ ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะเคารพกฎจราจร ซึ่งเป็นกฎแห่ง
ความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด อาทิ
- ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท
- เลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องเดินรถโดยไม่ให้สัญญาณปรับตั้งแต่ ๔๐๐ – ๑,๐๐๐ บาท
- ขับรถแซงหน้ารถอื่นภายในระยะ ๓๐ เมตร ก่อนถึงทางแยกปรับตั้งแต่ ๔๐๐ – ๑,๐๐๐ บาท
- กลับรถที่ทางร่วมทางแยก (เว้นแต่จะมีเครื่องหมายจราจรให้กลับรถได้) ปรับตั้งแต่ ๔๐๐ – ๑,๐๐๐ บาท
- ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด ปรับตั้งแต่ ๒๐๐ – ๕๐๐ บาท
- ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร ปรับตั้งแต่ ๔๐๐ – ๑,๐๐๐ บาท
- ขับรถบรรทุกของยื่นเกินความยาวของตัวรถในทางเดินรถไม่ติดธงสีแดงไว้ตอนปลายสุดให้มองเห็นได้ภายในระยะ ๑๕๐ เมตร ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท
- ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท
- ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท


จะเห็นได้ว่า กฎจราจร เป็นกฎที่กำหนดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ขับขี่ยานพาหนะและผู้ใช้ถนนร่วมกัน จุดประสงค์ของกฎจราจรมิใช่เงินค่าปรับ แต่สิ่งที่ต้องการคือจิตสำนึกในเรื่องของความปลอดภัย
ช่วงระหว่างวันที่ ๑๐ – ๑๖ เมษายน ๒๕๕๒ เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในปี ๒๕๕๑ ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๔,๒๔๓ ครั้ง และเสียชีวิต ๓๖๘ คน ในปี ๒๕๕๒ นี้ หากทุกคนทุกฝ่าย
โดยเฉพาะผู้ขับยานพาหนะตระหนักถึงความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ และร่วมมือร่วมใจกันรักษากฎจรจรอย่างเคร่งครัดแล้ว
เทศกาลสงกรานต์จะเป็นเทศกาลแห่งความสุข มิใช่เทศกาลแห่งอันตรายอีกต่อไป



ด้วยความปรารถนาดีจากกองทัพเรือ
ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตกำลังพลกองทัพไทย

Comments

Popular posts from this blog

กง.ทร.พัฒนาระบบ E-mobile Slip ใช้ตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนผ่านสมาร์ทโฟน

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการกองทัพเรือ กองทัพเรือ โดยกรมการเงินทหารเรือ ได้พัฒนาระบบ E-mobile Slip เพื่อให้ข้าราชการกองทัพเรือสามารถตรวจสอบข้อมูลใบจ่ายเงินเดือนได้ด้วยตนเองผ่านทางระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Smart Phone) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ เข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานครั้งแรก เพื่อตั้งค่ารหัสผ่านในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือที่ http://info.navy.mi.th/finance แบนเนอร์ “สลิปเงินเดือน” หลังเข้าลงทะเบียนผู้ใช้งานแล้ว โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Android สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมผ่าน Play Store โดยค้นหาคำว่า “e-slip” และติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ iOS ให้เปิด Browser และเข้าเว็บไซต์ http://www.finance.navy.mi.th/mobile_https หรือด้วยการสแกนผ่านบาร์โค้ดในเว็บไซต์กรมการเงินทหารเรือ จากนั้นจึงเข้าใช้งานด้วยรหัสผู้ใช้งานเป็นเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ ข้อมูล กง.ทร. ๒๘ ก.ย.๕๙

ศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ (One Stop Service : OSS)

  ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ได้เปิดที่ทำการอาคารศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ( One Stop Service : OSS) หรืออาคารสภาเรือแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่วังนันทอุทยาน ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการเพื่อช่วยเหลือ แนะนำ และอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการกองทัพเรือที่ลาออกจากราชการและเกษียณอายุราชการ รวมทั้งทายาท ให้สามารถเข้าถึงการบริการด้านสิทธิกำลังพลได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยการรวมจุดบริการมาไว้เพียงจุดเดียว อาทิ การเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาคุณภาพการสวัสดิการและการบริการให้กับกำลังพลและครอบครัว เพื่อให้มีขวัญกำลังใจและคุณภาพชีวิตที่ดี   โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสภาเรือ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.60 ที่ผ่านมา   และเรียนเชิญผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคาร ศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ในวันที่ 8 พ.ค.61 สำหรับอาคารสภาเรือ ที่สร้างขึ้นนี้   มีรูปแบบการดำเนินการ ใน 3 ส่วนคือ 1. ด้านกำลังพล ได้แก่ ก

ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า “พฤฒเวชโฮมแคร์” ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ โดยทีมงานคุณภาพมาตรฐาน เพื่อความสุขสบายของคนที่คุณรัก ภายในบรรยากาศที่อบอุ่นเสมือนบ้าน รับผู้สูงอายุชาย – หญิง อายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป            นอกจากนั้นยังจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ ตามสภาพร่างกาย และความเหมาะสมของผู้เข้ารับการบริการ เช่น การทำบุญตักบาตร การสวดมนต์ การสนทนา โดยใช้หลักจิตวิทยาเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมอง การออกกำลังกาย กิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีบริการแพทย์ตรวจเยี่ยม ๒ ครั้งต่อเดือน แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูตรวจเยี่ยม ๑ ครั้งต่อเดือน พยาบาลวิชาชีพเยี่ยมประเมิน ๔ ครั้งต่อเดือน ผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสมเด็จพระปิ่นเกล้า งานสวัสดิการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโลเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐๖ ๑๖๑๕ ๒๖๕๒ และ ๐๘ ๖๓๘๒ ๗๖๙๙                                                                         ข้อมูล รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ