พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความพร้อมสำหรับการตรวจสอบความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของคณะผู้แทน EU ที่จะเดินทางมาตรวจเพิ่มเติมและลงพื้นที่ ระหว่าง ๑๘-๒๑ ม.ค.๕๙ โดยยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องและมีผลความก้าวหน้าเป็นลำดับ การแก้ไขปัญหามีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรม ๕ ด้าน ได้แก่
๑) การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย รัฐบาลได้ออก พรก.และกฎหมายลูก เป็นหลักในการบังคับใช้ รวมทั้งให้ความรู้ประชาชนผ่าน ๒๘ ศูนย์ และออกคู่มือการทำประมงอย่างถูกต้อง
๒) การแก้ไขเรื่องระบบควบคุมติดตาม ได้แก่ (๑) วางระบบตรวจสอบมาตรฐาน (MCS) ควบคุม ติดตาม เฝ้าระวังเรือในทะเลทั้งระบบ โดยให้เรือติดตั้ง VMS เริ่มจากเรือที่มีขนาด ๖๐ ตันกรอสขึ้นไปก่อน ปัจจุบันติดไปแล้ว ๙๓.๗% (๒) จัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ โดยวางระบบ E-License พร้อมใช้งาน ๓๐ มี.ค.๕๙ และอบรม จนท.ประจำศูนย์ และผู้สังเกตการณ์บนเรือ พร้อมปฏิบัติงาน ม.ค.๕๙
๓) การแก้ปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย มีชุดบูรณาการพิเศษเพื่อตรวจและบังคับใช้กฎหมายโดยเน้นเรือขนาด ๖๐ ตันกรอสขึ้นไปทั้งในและนอกน่านน้ำ และ ครม.ได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงห้ามลูกจ้างอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี ทำงานในโรงงาน แปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้นและสถานที่ประกอบกิจการแปรรูปสัตว์น้ำเพื่อคุ้มครองแรงงานเด็กและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ม และผ่าน ร่างพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้การพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์มีความรวดเร็วขึ้น
๔) ความร่วมมือระหว่างประเทศ ดำเนินงาน ๒ เรื่องหลักคือ แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการเข้ามาทำงานในไทย เช่น กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา และความร่วมมือกับประเทศหมู่เกาะเพื่อพัฒนาการทำประมง เช่น ฟิจิ ปาปัวนิวกินี โซโลมอน เป็นต้น
๕) การช่วยเหลือชาวประมงและแรงงานประมง สำหรับชาวประมงที่ต้องเปลี่ยนอาชีพหรือออกจากระบบ ได้ช่วยเหลือชาวประมงโดยตรงและรับซื้อเรือที่ต้องการเลิกกิจการ พร้อมทั้งช่วยเหลือชาวประมงพื้นบ้านด้วยการออกประกาศแบ่งเขตการทำประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์
นายกฯ เน้นย้ำว่า ทุกหน่วยงานได้ผนึกกำลังเพื่อแก้ไขปัญหาประมงอย่างเต็มที่ แต่ผลการประเมินของ EU อยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาล และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร รัฐบาลยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าต่อสู้กับการทำประมงผิดกฎหมายให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเล และส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืนเพื่อลูกหลานในอนาคต
--ข้อมูล สน.ปชส.ศปมผ.
๒๐ ม.ค.๕๙
ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ได้เปิดที่ทำการอาคารศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ( One Stop Service : OSS) หรืออาคารสภาเรือแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่วังนันทอุทยาน ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการเพื่อช่วยเหลือ แนะนำ และอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการกองทัพเรือที่ลาออกจากราชการและเกษียณอายุราชการ รวมทั้งทายาท ให้สามารถเข้าถึงการบริการด้านสิทธิกำลังพลได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยการรวมจุดบริการมาไว้เพียงจุดเดียว อาทิ การเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาคุณภาพการสวัสดิการและการบริการให้กับกำลังพลและครอบครัว เพื่อให้มีขวัญกำลังใจและคุณภาพชีวิตที่ดี โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสภาเรือ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.60 ที่ผ่านมา และเรียนเชิญผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคาร ศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ในวันที่ 8 พ.ค.61 สำหรับอาคารสภาเรือ ที่สร้างขึ้นนี้ มีรูปแบบการดำเนินการ ใน 3 ส่วนคือ 1. ด...
Comments