กองทัพเรือจัดทำคำขอรับบำเหน็จบำนาญให้แก่ข้าราชการกองทัพเรือที่จะครบกำหนดเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม ๒๕๖๒

  

กองทัพเรือ โดย กรมกำลังพลทหารเรือ จะจัดทำคำขอรับบำเหน็จบำนาญให้แก่ข้าราชการกองทัพเรือที่จะครบกำหนดเกษียณอายุราชการ ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ โดยส่งสมุดประวัติ รับราชการเพื่อประกอบการพิจารณาของกรมบัญชีกลาง ดังนั้นเพื่อให้ประวัติรับราชการเล่มต้นสังกัด  และเล่มที่กรมกำลังพลทหารเรือเก็บรักษามีข้อมูลถูกต้องครบถ้วน และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ของกำลังพลในการดำเนินการขอรับบำเหน็จบำนาญ กรมกำลังพลทหารเรือขอให้หน่วยต่าง ๆ แจ้งให้ข้าราชการที่จะครบกำหนดเกษียณอายุราชการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒  นำสมุดประวัติ ฯ เล่มที่หน่วยเก็บรักษา ไปตรวจสอบความถูกต้องด้วยตนเอง ได้ที่ แผนกทะเบียนประวัติ กองทะเบียนพล สำนักบริการและสิทธิกำลังพล กรมกำลังพลทหารเรือ (กทพ.สบส.กพ.ทร.) ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ หากพ้นกำหนดวันดังกล่าวจะถือว่าประวัติฯ เล่มที่กรมกำลังพลทหารเรือเก็บรักษาถูกต้อง โดยขอให้เจ้าของสมุดประวัติฯ นำเอกสารที่เกี่ยวข้องมา เพื่อประกอบการตรวจสอบประวัติฯ ดังนี้

             ** รูปถ่ายสีหรือขาวดำ ขนาด ๓ x ๔ เซนติเมตร จำนวน ๒ รูป (ติดที่สมุดประวัติเล่มต้นสังกัด๑ รูป) (ยศปัจจุบัน)

             ** บัญชีราชการทวีคูณ (ถ้ามี) กรณีบัญชีราชการทวีคูณ ชื่อ ชื่อสกุล ไม่ถูกต้อง จะต้องได้รับการแก้ไขจากส่วนราชการที่ออกหนังสือรับรองให้เรียบร้อย ถ้าเป็นสำเนาบัญชีทวีคูณจะต้องมีชื่อผู้รับรองสำเนาจากหน่วยที่ออกหนังสือรับรองก่อนเก็บไว้ในประวัติฯ

             ** สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน ๑ ฉบับ

             ** สำเนาคำสั่งรับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.) (ถ้ามี) ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รับจนถึงคำสั่งครั้งสุดท้ายที่ได้รับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ (ต้องมี) หากขาดคำสั่งเงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบครั้งใด จะส่งผลทำให้การรับเงินบำเหน็จบำนาญล่าช้า

             ** สำเนาสมุดประจำตัวทหารกองหนุน (แบบ สด.๘ กรณีจบรักษาดินแดน (รด.) ปี ๓) หรือสำเนาทะเบียนกองประจำการ (สด.๓) (ต้องมี)

             ** สมุดประวัติฯ เล่มต้นสังกัดจะต้องมีการบันทึกรายการรับเงินเดือน เงินเพิ่มพิเศษต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มรับราชการจนถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ตรวจสอบ) เพื่อที่กรมกำลังพลทหารเรือสามารถใช้ตรวจสอบได้ในกรณีที่กรมบัญชีกลางขอเรียกเอกสารเพิ่มเติม

             ** การทำหนังสือแสดงเจตนาผู้รับบำเหน็จตกทอด และหนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับเงินช่วยพิเศษ กรณีข้าราชการถึงแก่ความตาย จะต้องเป็นนายทหารกำลังพลหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยเป็นผู้ลงลายมือชื่อเท่านั้น กรมกำลังพลทหารเรือจะรับรองหนังสือดังกล่าวได้ต่อเมื่อข้าราชการผู้นั้นเกษียณอายุราชการแล้วเท่านั้น

             เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคตะวันออก กรมกำลังพลทหารเรือ จะจัดเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตรวจสอบสมุดประวัติฯ ให้แก่ข้าราชการ ระหว่างวันที่ ๗ ถึง ๑๑ มกราคม ๒๕๖๒ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. – ๑๖.๓๐ น. ดังนี้

             ** ข้าราชการสังกัด กองเรือยุทธการ ทัพเรือภาคที่ ๑ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรมอู่ทหารเรือ กรมอุทกศาสตร์ และ กรมแพทย์ทหารเรือ ในวันที่ ๗ – ๘ มกราคม ๒๕๖๒ ณ สโมสรสัญญาบัตร กองเรือยุทธการ

             ** ข้าราชการสังกัด หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และ กรมสรรพาวุธทหารเรือ ในวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๒ ณ ห้องมาลิเคอร์ กองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

             ** ข้าราชการสังกัด ฐานทัพเรือสัตหีบ และ กรมพลาธิการทหารเรือ ในวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๒ ณ สโมสรนายทหารสัญญาบัตร ฐานทัพเรือสัตหีบ

             ** ข้าราชการสังกัด กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ในวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๒ ณ ห้องประชุม กองบัญชาการ โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ชั้น ๒

             สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นาวาโท พิษณุ ปราการรัตน์ หัวหน้าแผนกทะเบียนประวัติ กองทะเบียนพล สำนักบริการและสิทธิกำลังพล กรมกำลังพลทหารเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๕๘๑๖๒  (ที่มา : กพ.ทร.)