เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๒ รัฐบาลในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กำหนดให้วันที่ ๘ เมษายน เป็นวันกองทัพไทย และยังเป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม อันจะทำให้ทหารทั้งสามเหล่าทัพระลึกถึงความภาคภูมิใจ ปลุกใจให้เกิดความหวงแหนชาติบ้านเมือง พร้อมที่จะสละชีวิตเลือดเนื้อเป็นชาติพลี และส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีขึ้นในหมู่ทหารทั้งสามเหล่าทัพ และเป็นวันที่มีการปรับปรุงการทหาร จากการจัดอัตรา กำลังแบบโบราณมาเป็นการจัดอัตรากำลังแบบปัจจุบัน
ครั้นเมื่อสมัยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใน พ.ศ.๒๕๒๓ เห็นว่าวันกองทัพไทยควรเป็นวันที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงถึงความกล้าหาญและเสียสละเป็นวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่ง สำหรับทหารทั้งสามเหล่าทัพ จึงได้กำหนดเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีได้รับชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชาเป็นวันกองทัพไทยซึ่งตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคมของทุกปี
ต่อมา วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๙ พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์ อดีตอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ได้มีหนังสือพร้อมข้อมูลของวันกองทัพไทยเสนอไปที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ให้ทำการเปลี่ยนแปลงวันกองทัพไทย ด้วยเหตุที่ว่า ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และได้พบความคลาดเคลื่อนของวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีจึง ขอให้พิจารณาแก้ไขวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ ของชาติไทยที่คลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง เพื่อซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย คือ วันที่สมเด็จ พระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ซึ่งแต่เดิมกำหนดไว้ คือวันที่ ๒๕ มกราคม ที่ถูกต้องคือวันที่ ๑๘ มกราคม
จนกระทั่ง วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยจากวันที่ ๒๕ มกราคม เป็นวันที่ ๑๘ มกราคม ของทุกปี โดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นต้นไป และอนุมัติให้เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหม ซึ่งกิจกรรมที่กระทำ ในวันกองทัพไทย คือ พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล ซึ่งถือเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหาร ทุกเหล่าทัพ
ข้อมูล กพร.ทร. ๑๘ ม.ค.๖๐
ครั้นเมื่อสมัยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใน พ.ศ.๒๕๒๓ เห็นว่าวันกองทัพไทยควรเป็นวันที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงถึงความกล้าหาญและเสียสละเป็นวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่ง สำหรับทหารทั้งสามเหล่าทัพ จึงได้กำหนดเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีได้รับชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชาเป็นวันกองทัพไทยซึ่งตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคมของทุกปี
ต่อมา วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๙ พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์ อดีตอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ได้มีหนังสือพร้อมข้อมูลของวันกองทัพไทยเสนอไปที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ให้ทำการเปลี่ยนแปลงวันกองทัพไทย ด้วยเหตุที่ว่า ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และได้พบความคลาดเคลื่อนของวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีจึง ขอให้พิจารณาแก้ไขวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ ของชาติไทยที่คลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง เพื่อซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทย คือ วันที่สมเด็จ พระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ซึ่งแต่เดิมกำหนดไว้ คือวันที่ ๒๕ มกราคม ที่ถูกต้องคือวันที่ ๑๘ มกราคม
จนกระทั่ง วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยจากวันที่ ๒๕ มกราคม เป็นวันที่ ๑๘ มกราคม ของทุกปี โดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นต้นไป และอนุมัติให้เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหม ซึ่งกิจกรรมที่กระทำ ในวันกองทัพไทย คือ พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล ซึ่งถือเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหาร ทุกเหล่าทัพ
ข้อมูล กพร.ทร. ๑๘ ม.ค.๖๐
Comments