ตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่เป็นปัญหาที่สำคัญ โดย พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือและผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจค้นและตรวจสอบการค้ามนุษย์บนเรือประมง
เมื่อวันที่ ๖ พ.ย.๕๘ ทัพเรือภาคที่ ๓ ได้รับการสั่งการจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ (ศปก.ทร.)
ในการจัดกำลังและเรือปฏิบัติการ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเข้าดำเนินการจับกุมเรือประมง จำนวน ๓ ลำ ได้แก่ เรือวาณิชประมง เรือโภคาสถาพร ๑๙ และเรือโภคาสถาพร ๓๔ ที่ทำการประมง ด้านทิศตะวันตกของเกาะหลีเป๊ะ ประมาณ ๖๐ ไมล์ทะเล ดังนั้น พลเรือโทสายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ ถึงได้สั่งการให้เรือหลวงแกลง ที่มี นาวาตรี ณัฐวุฒิ เจียมจักร เป็นผู้บังคับการเรือ ออกเรือปฏิบัติการร่วมโดยสนับสนุนในการติดตามเป้าหมายจากสถานีเรดาร์ ของหน่วยต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ ๔๙๑ ประจำที่เกาะหลีเป๊ะ และการติดตามเป้าในระบบ วีเอ็มเอส จากศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ ๓ ทั้งนี้ในส่วนของตำรวจน้ำสตูล ได้จัดเรือ ตรน.๘๐๙ เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย
เรือหลวงแกลง พร้อมเรือ ตรน.๘๐๙ ได้เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อค้นหาเป้าหมายตั้งแต่เวลา ๑๙.๐๐ น. ของวันที่ ๖ พ.ย.๕๘ เวลาประมาณ ๐๔.๔๐ น. เรือหลวงแกลงจึงสามารถค้นพบเรือวานิชประมง บริเวณทางเข้าท่าเรือกันตัง ด้านทิศใต้ของเกาะลิบง จ.ตรัง ประมาณ ๖ ไมล์ทะเล จึงได้ดำเนินการจับกุม โดยมี นายประวิทย์ กิมซ้าย เป็นไต๋ก๋งเรือ เวลา ๐๔.๕๐ น. เรือ ตรน.๘๐๙ ตรวจพบเรือโภคาสถาพร ๓๔ บริเวณใกล้เคียง ถึงดำเนินการจับกุม โดยมีนายถาวร จันทรักษ์ เป็นไต๋เรือ และเวลาประมาณ ๐๕.๐๐ น. เรือหลวงแกลงตรวจพบเรือโภคาสถาพร ๑๙ ในพื้นที่ใกล้เคียง จึงดำเนินการจับกุม โดยมีนายคำมี ประดาสุข เป็นไต๋ก๋งเรือ ได้ผู้ต้องหาจำนวน ๓ คน ส่วนภาคพื้นดินมีการตรวจค้น ๑๑ เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ รวม ๕ คน รวมผู้ต้องหา จำนวน ๘ คน ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สํานักงานตํารวจแห่งชาติ จะได้นำผู้ต้องหาทั้ง ๘ คน ไปดำเนินการสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
การจับกุมในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติงานร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบเรือประมงดังกล่าว ระหว่าง ๒๐ - ๒๑ ต.ค.๕๘ ที่ผ่านมา ว่ามีพฤติกรรมการค้ามนุษย์บนเรือประมง และได้มีการนำลูกเรือชาวเมียนมาร์ จำนวน ๑๒ คน ที่ทำงานบนเรือประมงดังกล่าวมาสอบสวน และขยายผล และนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้
--ข้อมูล สน.ปชส.ศปมผ.
๑๐ พ.ย.๕๘
ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ได้เปิดที่ทำการอาคารศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ( One Stop Service : OSS) หรืออาคารสภาเรือแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่วังนันทอุทยาน ถนนอิสรภาพ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โดยเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการเพื่อช่วยเหลือ แนะนำ และอำนวยความสะดวกแก่ข้าราชการกองทัพเรือที่ลาออกจากราชการและเกษียณอายุราชการ รวมทั้งทายาท ให้สามารถเข้าถึงการบริการด้านสิทธิกำลังพลได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยการรวมจุดบริการมาไว้เพียงจุดเดียว อาทิ การเบิกเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาคุณภาพการสวัสดิการและการบริการให้กับกำลังพลและครอบครัว เพื่อให้มีขวัญกำลังใจและคุณภาพชีวิตที่ดี โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสภาเรือ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.60 ที่ผ่านมา และเรียนเชิญผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคาร ศูนย์แบบเบ็ดเสร็จข้าราชการกองทัพเรือนอกประจำการ ในวันที่ 8 พ.ค.61 สำหรับอาคารสภาเรือ ที่สร้างขึ้นนี้ มีรูปแบบการดำเนินการ ใน 3 ส่วนคือ 1. ด...
Comments