ในวันนี้ (๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๔) เวลา ๐๘.๓๐ น. พลเรือเอก วีรพล กิจสมบัติ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ให้การต้อนรับและกล่าวให้
โอวาทแก่คณะเยาวชนในพื้นที่ปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ รวม ๓๕ คน เนื่องในโอกาสเดินทางมาทัศนศึกษานอกสถานที่ ตามโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง ประจำปี ๒๕๕๕ ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ต่อมาในเวลา ๑๔.๐๐ น. กองทัพเรือได้จัดงานแถลงข่าวและพิธีเปิดโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่งประจำปี ๒๕๕๕ ขึ้น ณ ห้องแถลงข่าว ๑ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)
โดยมี พลเรือโททวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ รองเสนาธิการทหารเรือ คุณสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ และคุณสยาม เศรษฐบุตร ผู้แทนบริษัทบางกอกกล๊าส จำกัด ร่วมในการแถลงข่าวในครั้งนี้ โดยมีหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนกิจกรรม ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ บริษัทฟาร์มโชคชัย จำกัด และ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด ทั้งนี้สาระสำคัญของการแถลงข่าวของผู้แทนองค์กรต่างๆโดยสรุป เป็นการกล่าวต้อนรับคณะเยาวชนฯ รวมทั้งกล่าวถึงวัตถุประสงค์ และ ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดกิจกรรมฯ ตลอดจนแสดงความยินดีถึงการมีส่วนร่วม ในการให้การสนับสนุนกิจกรรมฯร่วมกับกองทัพเรือในครั้งนี้
กองทัพเรือได้จัดกิจกรรมนำเยาวชนในพื้นที่ปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานี ทัศนศึกษานอกสถานที่ ตามโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง ประจำปี งบประมาณ ๒๕๕๕ จำนวน ๗ รุ่น โดยรุ่นที่ ๑/๒๕๕๕ กำหนดจัดทัศนศึกษานอกสถานที่ ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเยาวชนมาเปิดโลกทัศน์ให้กว้างไกลขึ้น ให้ได้รับความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ได้เห็นถึงการอยู่ร่วมกัน ที่ทุกฝ่ายได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็ง และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขท่ามกลางความหลากหลายของศาสนาและวัฒนธรรม ตลอดจนยึดมั่นในประเทศชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ร่วมกัน อีกทั้งยังจะได้รับทราบถึงภารกิจในการป้องกันและพัฒนาประเทศของกองทัพเรือ รวมทั้งมีกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้มีทัศนคติที่ดี มีความเข้าใจที่ถูกต้องและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกองทัพเรือและทางราชการในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป

โอวาทแก่คณะเยาวชนในพื้นที่ปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ รวม ๓๕ คน เนื่องในโอกาสเดินทางมาทัศนศึกษานอกสถานที่ ตามโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง ประจำปี ๒๕๕๕ ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ต่อมาในเวลา ๑๔.๐๐ น. กองทัพเรือได้จัดงานแถลงข่าวและพิธีเปิดโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่งประจำปี ๒๕๕๕ ขึ้น ณ ห้องแถลงข่าว ๑ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)

โดยมี พลเรือโททวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ รองเสนาธิการทหารเรือ คุณสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ และคุณสยาม เศรษฐบุตร ผู้แทนบริษัทบางกอกกล๊าส จำกัด ร่วมในการแถลงข่าวในครั้งนี้ โดยมีหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนกิจกรรม ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓ บริษัทฟาร์มโชคชัย จำกัด และ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด ทั้งนี้สาระสำคัญของการแถลงข่าวของผู้แทนองค์กรต่างๆโดยสรุป เป็นการกล่าวต้อนรับคณะเยาวชนฯ รวมทั้งกล่าวถึงวัตถุประสงค์ และ ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดกิจกรรมฯ ตลอดจนแสดงความยินดีถึงการมีส่วนร่วม ในการให้การสนับสนุนกิจกรรมฯร่วมกับกองทัพเรือในครั้งนี้
กองทัพเรือได้จัดกิจกรรมนำเยาวชนในพื้นที่ปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานี ทัศนศึกษานอกสถานที่ ตามโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง ประจำปี งบประมาณ ๒๕๕๕ จำนวน ๗ รุ่น โดยรุ่นที่ ๑/๒๕๕๕ กำหนดจัดทัศนศึกษานอกสถานที่ ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเยาวชนมาเปิดโลกทัศน์ให้กว้างไกลขึ้น ให้ได้รับความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ได้เห็นถึงการอยู่ร่วมกัน ที่ทุกฝ่ายได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็ง และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขท่ามกลางความหลากหลายของศาสนาและวัฒนธรรม ตลอดจนยึดมั่นในประเทศชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ร่วมกัน อีกทั้งยังจะได้รับทราบถึงภารกิจในการป้องกันและพัฒนาประเทศของกองทัพเรือ รวมทั้งมีกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้มีทัศนคติที่ดี มีความเข้าใจที่ถูกต้องและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกองทัพเรือและทางราชการในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป
Comments